ชีวิตของคนเลือกเกิดไม่ได้ และก็อาจจะเลือกตายไม่ได้เช่นกัน !
หลายคนอาจเคยประสบกับสภาวะต้องเลือก เมื่อพ่อหรือแม่ที่นอนป่วยหนักด้วยโรคร้าย จะรักษากันอย่างเต็มที่ในโรงพยาบาล หรือปล่อยให้ชีวิตช่วงสุดท้ายกลับไปหลับตลอดกาลที่บ้าน
บ่อยครั้งที่การเลือกไม่ได้อยู่บนความต้องการ อยากให้อยู่โรงพยาบาลรักษาเต็มที่ แต่ค่าใช้จ่ายก็งอกเงยจนแทบหมดตัว หรือเชื่อว่าความสุขสุดท้ายของบุพการีคือการกลับไปที่บ้าน ก็ไม่มีความสามารถในการดูแล และคนรอบข้างก็จะต่อว่าเอาว่า ไม่คิดรักษาให้ถึงที่สุด
สภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออกนี้เอง ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต คิดบริการด้านการประกันสุขภาพที่ยังไม่มีใครกล้าคิด โดยมอบทางเลือกที่สบายทั้งใจ และสบายความรู้สึกให้กับญาติผู้ป่วยไม่ว่าจะเลือกทางใด
พัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า บทบาทของบริษัทประกันในวันนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการขายประกัน ได้จ่ายเคลมค่ารักษาพยาบาลแล้วจบ แต่ต้องเป็นผู้ดูแลลูกค้าตั้งแต่วันแรก วันที่ไม่สบาย ไปจนถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาล อยู่ในทุกช่วงชีวิตของลูกค้า ดูแลไปถึงจิตใจ ครอบคลุมถึงความรู้สึกของลูกค้าและครอบครัวที่เขารัก โดย อลิอันซ์ อยุธยา มีกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเลือกการรักษาอย่างเต็มที่ที่โรงพยาบาล หรือ ดูแลแบบประคับประคอง[Palliative Care]ที่บ้าน
โดยรูปแบบการประกันแบบเหมาเหมา ที่อลิอันซ์ อยุธยา เปิดตัวมาก่อนหน้า ด้วยกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ปลดล็อค เอ็กซ์ตร้า ที่มีวงเงินความคุ้มครองตั้งแต่ 2 ล้านบาทไปจนถึง 10 ล้านบาท ช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจ ขณะเดียวกัน หากคนไข้ต้องการกลับไปนอนรักษาตัวที่บ้าน ก็มีบริการพยาบาลตามไปดูแลถึงที่บ้าน ให้ลูกหลานได้สบายใจว่ามีผู้ดูแลตลอดเวลา
“อลิอันซ์ อยุธยาต้องการสื่อสารถึงบริการแบบองค์รวม คือมีทั้งการเหมาคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และเหมาไปถึงบริการสุขภาพเพิ่มเติมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเราหยิบประเด็น Palliative Care หรือ การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง มานำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณา “โชคดีที่ได้เลือก” ซึ่งถือเป็นประเด็นใหม่สำหรับสังคมไทย ที่ไม่เพียงแต่จะสื่อถึงบริการที่ครอบคลุมของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายควบคู่กันไป พร้อมชี้ให้เห็นว่าการพูดคุยกันระหว่างผู้ป่วยและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ป่วยควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาของตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมและวางแผนเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและความตายของตนก่อนที่จะไม่สามารถทำได้ โดยมี อลิอันซ์ อยุธยา พร้อมดูแลและสนับสนุนทุกทางที่คุณเลือก” พัชรา กล่าวเพิ่มเติม
โฆษณา “โชคดีที่ได้เลือก” ฉายภาพสถานการณ์ที่หลายครอบครัวต้องประสบ ว่าด้วยเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางการรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยนำเสนอเรื่องราวสมมติของครอบครัวหนึ่ง ที่คุณพ่อป่วยระยะสุดท้าย เมื่อหมอถามลูกชายว่าต้องการให้พ่อรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล หรือจะพาพ่อกลับบ้าน ส่งผลให้ลูกชายเกิดความสับสนขึ้นภายในใจ และตัดสินใจลำบากว่าจะเลือกทางไหน ระหว่างการเป็นลูกชายที่พร้อมทำตามความต้องการของคนรอบข้าง ซึ่งหมายถึงการเลือกที่จะรักษาคุณพ่ออย่างเต็มที่ต่อไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งหมดที่มี เพราะก็มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์อยู่แล้ว หรือจะพาพ่อกลับบ้านเพื่อให้การดูแลแบบประคับประคอง [Palliative Care] ที่บ้านตามที่พ่อต้องการ โดยอลิอันซ์ อยุธยา พร้อมมีบริการเพิ่มเติมในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน(Nursing Care) ทำให้เขาสามารถพาพ่อไปดูแลที่บ้านได้เช่นกัน
โดยโฆษณาที่เผยแพร่ทั้งช่องทางโทรทัศน์และช่องทางออนไลน์ที่มีลักษณะเป็น อินเตอร์แอคทีฟ เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ สามารถเป็นผู้เลือกแนวทางที่จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่มีผิดมีถูก แต่กระตุ้นให้เห็นถึง “ทางเลือก” และความ “โชคดี” ที่เราสามารถเป็นผู้กำหนดได้เอง ให้คนเห็นความสำคัญของการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับความเจ็บป่วยและความตายของตน
พัชรา กล่าวต่อว่า ไม่ได้มองว่าโฆษณาชุดนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ต้องการสื่อสารให้คนครอบครัวเห็นความสำคัญของการพูดคุยกัน ซึ่งบริการการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน โดยพยาบาลมืออาชีพ ก็มีข้อจำกัดในเบื้องต้น ที่จำนวนพยาบาลเหล่านี้ยังมีอยู่น้อยมาก จะสามารถให้บริการได้เฉพาะในกรุงเทพฯเป็นลำดับแรก แต่หากมีความต้องการจากจังหวัดอื่นๆ ก็จะพิจารณาเป็นพื้นที่ไป
อย่างไรก็ตาม พัชรา เชื่อมั่นว่าหนังโฆษณาในปีนี้ จะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของ อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ ที่ให้มากกว่าผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้มากกว่าการเคลมค่ารักษาพยาบาล แต่อลิอันซ์ อยุธยา เข้าใจและพร้อมยืนหยัดเคียงข้างคุณ ภายใต้แนวคิด #เหมากายเหมาใจ #เหมาไปถึงความรู้สึก
