หมดยุคจ่ายประกันภัยรถไม่คุ้ม! ไทยวิวัฒน์ นำ NB-IoT ยกระดับ “ประกันรถเปิดปิด”

839

เทคโนโลยีในวงการธนาคาร หรือ FinTech ช่วยให้เราสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่เทคโนโลยีของวงการประภัย InsurTech ช่วยให้เราประหยัดเงินมากขึ้น

เมื่อประกันภัยไทยวิวัฒน์ หนึ่งในบริษัทประกันที่ทุ่มงบประมาณการลงทุนด้านเทคโนโลยีสูงสุด จับมือกับเอไอเอส และอะเมซอน เว็บเซอร์วิส หรือ AWS เปิดบริการ “รถเปิดปิด” ด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่ต่ำ NB-IoT เป็นครั้งแรกในโลก ที่จะทำให้การประกันภัยรถยนต์ที่เคยจ่ายกันประหยัดลงถึง 40%

เทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปณิธานของไทยวิวัฒน์ ที่อยากให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการประกันภัยได้อย่างง่ายขึ้นและทั่วถึง เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงทางด้านทรัพย์สิน ชีวิต และการเงิน ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสระไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ตามสโลแกนของแคมเปญ Control Your Life: อิสระการใช้ชีวิตที่เลือกได้

“ค่าเฉลี่ยการเข้าถึงการประกันภัยของโลก อยู่ที่ 6.09% ขณะที่ในประเทศไทย อยู่ที่ 5% ของประชากรทั้งประเทศ โดยในส่วนของการประกันภัยรถยนต์ ประเทศไทยมีรถยนต์ที่จดทะเบียนอยู่ราว 15 ล้านคัน แต่มีกรมธรรม์ประกันรถยนต์เพียง 7.5 ล้านกรมธรรม์”

ส่วนสำคัญที่ทำให้เจ้าของรถทำประกันภัยกันเพียงครึ่งเดียว คือเรื่องราคากรมธรรม์ที่มีราคาสูง โดยหลายๆ คนใช้รถเพียงวันละ 4-5 ชั่วโมงในชีวิตประจำวัน ตลอดทั้งปีไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีการเคลมประกัน เงินที่จ่ายไปก็ดูจะไม่คุ้มค่า

เทพพันธ์ กล่าวต่อว่า นวัตกรรมของประกันภัยไทยวิวัฒน์ มีความโดดเด่นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับประกันภัยอื่นในตลาดประกันภัยไทย เนื่องจากไทยวิวัฒน์ได้ริเริ่มกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ จากความเข้าใจผู้ใช้งานจริงอย่างถ่องแท้ ซึ่งแนวทางด้านนวัตกรรมของไทยวิวัฒน์ นั้นมุ่งสร้าง InsurTech ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งต้องยึดลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลางในการพัฒนา

โดยประกันภัยไทยวิวัฒน์ มีการเปิดให้บริการรถเปิดปิดมาแล้วระยะหนึ่ง เพียงแต่เทคโนโลยีรุ่นก่อนหน้า ต้องใช้การเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่นที่ต้องใช้เน็ตบนมือถือ หรือเปิดบลูทูธบนมือถือ ที่เทพพันธ์มองว่า เป็นการเพิ่มค่าใช่จ่ายให้กับลูกค้าและไม่สะดวก ขณะที่ NB-IoT เป็นรูปแบบการส่งผ่านคลื่นความถี่ต่ำ ด้วยข้อมูลไม่มาก ทำให้มีราคาถูก ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าถึงได้ถึงระดับใต้ดิน โดย 1 เซลล์ไซท์ สามารถใช้งานได้ถึง 1 แสนอุปกรณ์เชื่อมต่อ รองรับการใช้งานการส่งสถานะการเปิด/ปิด ประกันได้กว่า 10,000 ครั้งพร้อมกันต่อ 1 วินาที

ซึ่งระบบเปิด-ปิด ประกันอัจฉริยะ “TVI Connect” จะมาเปลี่ยนประสบการณ์เปิดปิดใหม่ ง่ายยิ่งขึ้น (Reliable Service) ด้วยอุปกรณ์ TVI Connect สามารถทำงานเปิดปิดประกันได้โดยทันทีเมื่อมีการ สตาร์ทและดับเครื่องยนต์ ของรถที่ทำประกันไว้ โดยการทำงานทั้งหมดเกิดจากตัวอุปกรณ์เอง โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการใช้งานจาก แอปพลิเคชัน Thaivivat Motor โดยจะมีการส่ง Notification แจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการเปิดและปิดประกัน

“ถือเป็นการแก้ไข pain point ของผู้บริโภคที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวลืมเปิดปิดประกัน ไม่ต้องกลัวเปลืองอินเทอร์เน็ต หรือกังวลเรื่องแบตมือถือหมดอีกต่อไป พร้อมทั้งยังสามารถใช้รถร่วมกันได้หลายคน โดยไม่จำเป็นต้องมีแอปพลิเคชันอยู่ในมือถือของผู้ขับขี่ และยังติดตั้ง TVI Connect ได้ง่าย เพียงต่อเข้ากับช่องเสียบ USB ในรถ”

เทพพันธ์ กล่าวว่า ประกันรถเปิดปิด ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค โดยยังยึดความยุติธรรมเป็นหลัก ให้ผู้เอาประกันจ่ายค่าเบี้ยประกันตามเวลาการใช้งานจริงคิดเป็นนาที ทำให้ผู้เอาประกัน สามารถลดภาระค่าเบี้ยประกันไปได้ถึง 40% หากมีการใช้รถที่ทำประกันเฉลี่ยไม่เกินวันละ 4 ชม. นอกจากค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่าแล้ว ผู้เอาประกันยังสามารถเลือกความคุ้มครองและทุนประกันที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง มีให้เลือกทั้งประกันชั้น 3+ ชั้น 2+ และชั้น 1 พร้อมทั้งสามารถเลือก ระยะเวลาการประกันภัยได้ ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน 4 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน ได้ตามต้องการ ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ครอบคลุมและทำมาเพื่อตอบโจทย์ผู้เอาประกันแต่ละคนมากที่สุด

และนอกจากอุปกรณ์ TVI Connect ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Thaivivat Motor ด้วยการออกแบบ ดีไซน์ทั้ง UX (User Experience) และ UI (User-Interface) ที่ง่าย และสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ใช้งานสามารถ ตรวจสอบสถานะประกันรถเปิดปิด ได้ตลอดเวลารวมถึงการแจ้งอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยไม่ต้องบอกเส้นทางให้ยุ่งยาก แอปพลิเคชันจะส่งพิกัด Latitude & Longitude ไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุของไทยวิวัฒน์ในทันที เพื่อส่งทีมปฏิบัติการให้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุได้ในเวลาที่สั้นที่สุด พร้อมทั้งตรวจสอบพิกัดของทีมปฏิบัติการไทยวิวัฒน์ได้ด้วยว่าเดินทางถึงจุดไหนแล้ว เพิ่มความมั่นใจและอุ่นใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น ยังมีฟังก์ชันค้นหาอู่ศูนย์ซ่อม สถานพยาบาล และสถานีตำรวจ ที่ใกล้กับลูกค้าพร้อมแสดงข้อมูลติดต่อ สามารถนำทางผู้ใช้ไปยังสถานที่เหล่านี้ได้โดยทันที เมื่อครบกำหนดการต่ออายุกรมธรรม์ เอาประกันก็สามารถเลือกต่ออายุ แผนประกันที่เราต้องการ และชำระค่าเบี้ยผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที ซึ่งได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ ที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูงอย่าง Omise ถือได้ว่า ประกันรถเปิดปิดรูปแบบใหม่นี้ ตอบโจทย์ผู้เอาประกันได้เต็มรูปแบบ

ปัจจุบันประกันรถเปิดปิด มียอดขายกว่า 100,000 กรมธรรม์จากที่ตั้งเป้าไว้เพียง 10,000 กรมธรรม์ และมีอัตราการต่ออายุกรมธรรม์ที่สูงเป็นประวัติการของประกันภัยรถยนต์ และผู้บริหารประกันภัยไทยวิวัฒน์ประเมินว่าจากการเปิดตัว Feature ใหม่ของประกันรถเปิดปิด TVI Connect ในครั้งนี้ จะทำให้อัตราการเติบโตของประกันรถเปิดปิดก้าวกระโดด โตขึ้นจากเดิมกว่า 200% อีกด้วย

และเพิ่มจำนวนรถยนต์ในประเทศไทยให้มีประกันภัยให้มีเกินครึ่งของรถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนให้ได้