โกเจ็ก ประเดิมลงสนามวินเมืองไทย ยกระดับอาชีพพี่วิน เอาใจล้านคนกรุงในปีแรก

1270

แม้ปัจจุบัน เทคสตาร์อัพของเมืองไทย จะยังไม่มีรายได้ก้าวไปแตะระดับยูนิคอร์น หรือธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้  แต่ก็มียูนิคอร์นในย่านอาเซียนหลายๆ ราย รุกเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย  ทั้ง ทราเวลโลก้า จากอินโดนีเซีย, ลาซาด้าจากสิงคโปร์ หรือ แกร็บ แท็กซี่ จากมาเลเซีย

และวันนี้ อีกหนึ่งยูนิคอร์นอาเซียน ที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย ก่อนการเข้ามา โกเจ็ก (Go Jek) แอปพลิเคชันเรียกใช้บริการเดินทาง ขนส่ง จากอินโดนีเชีย พร้อมแล้วในการรุกเข้าสู่ประเทศไทย

โกเจ็ก ประกาศตัวเข้าสู่เมืองไทยตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่รูปแบบการทำธุรกิจจะแตกต่างจากสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นก่อนหน้าทั้ง 3 ราย  คือ ใช้การร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศไทย พร้อมสร้างแบรนด์ขึ้นใหม่ ในเชื่อ “เก็ท” (GET) เนื่องด้วยผู้บริหารโกเจ๊กมองเห็นปัญหาการให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกใช้บริการรถขนส่งสาธารณะในเมืองไทย ที่ยังมีปัญหาทั้งกฎหมายรองรับ และการต่อต้านจากบรรดาวินมอเตอร์ไซค์ และผู้ขับแท็กซี่ จึงคิดว่าน่าจะให้พันธมิตรในเมืองไทยที่เข้าใจกับปัญหานี้เป็นผู้นำทาง

ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “เก็ท” กล่าวว่า ทีมงานเก็ทใช้เวลากว่า 1 ปีก่อนเปิดให้บริการ ในการพูดคุยกับทุกส่วนที่เกี่ยข้องกับการให้บริการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ได้แนวทางในการทำธุรกิจที่ดีที่สุด โดยในระยะเวลา 2 เดือนของการทดลองใช้ มีการเรียกทริปใช้บริการเข้ามาแล้วกว่า 2 ล้านครั้ง คนขับของเก็ทได้เดินทางไปทั่วกรุงเทพฯ แล้วเป็นระยะทางกว่า 3 ล้านกิโลเมตร

ขณะที่ นาดีม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โกเจ็ก กล่าวว่า แนวทางการทำธุรกิจของ เก็ท จะให้ความสำคัญกับคนขับ เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่เสริมความแข็งแกร่ง นอกเหนือจากเทคโนโลยีระดับโลกจากโกเจ็ก เพื่อโน้มน้าวให้กลุ่มคนขับหันมาใช้แอปฯ ในการสร้างรายได้มากขึ้น โดยเก็ท สร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าแอปพลิเคชันเรียกรถอื่นๆ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มคนขับ โดยจัดเตรียมการฝึกอบรม มีการประกันยานยนต์ และประกันชีวิตสำหรับคนขับรวมถึงสมาชิกในครอบครัว จัดโปรแกรมการออม และกิจกรรมสำหรับกลุ่มคนขับโดยเฉพาะ และมีศูนย์บริการสำหรับคนขับ และร้านค้าที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

“เราไม่ได้เข้ามาเพื่อแย่งงานวินมอเตอร์ไซค์ แต่เราเข้ามาเพื่อสร้างงาน เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับวินมอเตอร์ไซค์ มีสวัสดิการ มีการออม แม้จะเป็นเป้าหมายที่ไม่ง่ายนัก แต่เก็ทก็จะสร้างให้เกิดขึ้น”

ในช่วงแรก เก็ท ให้บริการ 3 ส่วน ประกอบด้วย GET WIN บริการเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้าง, GET DELIVERY บริการรับส่งพัสดุ และ GET FOOD บริการรับส่งอาหาร โดยในส่วนของ GET WIN จะรับสมาชิกเฉพาะรถจักรยานยนต์รับจ้างป้ายเหลืองที่มีใบอนุญาติถูกต้อง ขณะที่ GET DELIVERY และ GET FOOD จะรับสมาชิกรถจักรยานยนต์ป้ายขาว

โดยไฮไลท์ของการบริการ คือ GET FOOD ผู้บริโภคสามารถใช้บริการอาหารกว่า 20,000 ร้านบนแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ร้านสตรีทฟู้ดจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ โดยอัลการิทึมของเก็ท ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ค้าทุกราย ไม่เพียงแค่เฉพาะร้านที่ขายดีเท่านั้น เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและเพิ่มการรับรู้ของร้านอาหารทุกแห่งที่อยู่บนแพลตฟอร์ม ด้านฟีเจอร์ Shuffle Card ของโกเจ็ก ในแอปของเก็ท จะสามารถแนะนำอาหารที่เหมาะเฉพาะบุคคล ซึ่งคำนวณจากเวลาและตำแหน่งที่ผู้ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน เพื่อช่วยเติมเต็มประสบการณ์ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

“ทีมผู้บริหารเก็ท ได้ทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมขนส่งพัฒนาไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว นี่เป็นแนวคิดในการพัฒนาบริการ GET WIN หรือบริการเรียกรถ ที่ เก็ท ร่วมมือเฉพาะวินที่ถูกกฎหมายเท่านั้นเพื่อให้บริการรับส่งผู้โดยสาร โดยมุ่งสนับสนุนให้ชุมชนวินเป็นส่วนหนึ่งของยุคเศรษฐกิจยุคดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นาดีม กล่าว

ภิญญากล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งป้ายเหลือง และป้ายขาวมาลงทะเบียนเป็นสมาชิกเก็ทแล้ว 1 หมื่นคน สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ราว 80% ของกรุงเทพฯ คาดว่าภายในไตรมาสแรกนี้จะสามารถให้บริการครบ 100% ของพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมตั้งเป้าในการให้บริการให้กับคนกรุงเทพฯ ได้ถึง 1 ล้านคนในปีแรกของการให้บริการ

โดยในช่วงเปิดตัว ผู้ใช้งาน GET WIN จะได้รับส่วนลด 50% ในทุกๆ การใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 7 มีนาคมนี้ เพียงใส่โค้ด WEGETYOU ส่วนผู้ใช้ GET FOOD สามารถใช้บริการฟรีตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 13 มีนาคมนี้