JOOX ก้าวเท้าปีที่ 4 สู่พื้นที่ท้าทาย

1443

3 ปีของแอพพลิเคชันฟังเพลงในชื่อ JOOX ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าจะเรียกได้ว่าเกินความคาดหมายของทั้งเจ้าของแอป และคนในธุรกิจเพลง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม ปี 2559 กฤตธี มโนลีหกุล ผู้นำแอพพลิเคชัน JOOX ที่เปิดให้บริการครั้งแรกบนเกาะฮ่องกง เมื่อ 2 ปีก่อนหน้า มาเปิดบริการในเมืองไทยเป็นประเทศที่ 2 ยอมรับว่า ไม่ได้รับความร่วมมือจากค่ายเพลงหลายๆ ค่าย เพราะคิดว่า JOOX ก็คงไม่ต่างจากแพลตฟอร์มการฟังเพลงที่ผ่านมา ที่ล้มเหลวรายแล้วรายเล่า

ถึงวันนี้ JOOX คนไทยฟังเพลงบน JOOX มากกว่า 3 พันล้านครั้ง คิดเป็นอัตราการเติบโต 50% เมื่อเทียบจากปี 2559 มีการจัดทำเพลย์ลิสต์ไปแล้วกว่า 3,400 เพลย์ลิสต์ โดยมีเพลย์ลิสย์ที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้งานเองมากถึง 11 ล้านเพลย์ลิสต์ นอกจากนั้น ในปี 2561 JOOX ยังได้รับเลือกให้เป็นแอพฯ ยอดนิยมของผู้ใช้ (User’s Choice App 2018) บน Google Play Store ด้วยค่าเฉลี่ยคนใช้เวลาอยู่บน JOOX ราว 90 นาทีต่อวัน โดยมีผู้ใช้งาน JOOX ทุกช่วงวัย อันดับหนึ่งคือ ช่วงอายุ 18-25 ปี ที่สัดส่วน 41.2%

JOOX วันนี้ กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของศิลปินหน้าใหม่ โดยในรอบปี เพลงไทยที่ออกมาใหม่ 400-500 เพลง จะมีเพลงที่เกิดจาก JOOX ราว 60 เพลง ซึ่งศิลปินที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันอย่าง The Toys หรือ Urboy TJ ก็เป็นผลผลิตที่ผ่านเวที JOOX นอกจากนั้น JOOX ยังมีอีเวนต์มอบรางวัลให้กับศิลปิน ที่ศิลปินทั่วเมืองไทยแห่มาร่วมงาน 2 รายการ คือ JOOX Thailand Music Award ช่วงต้นปี และ Thailand Top 100 Award ในปลายปี

กฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ผู้บริหาร JOOX ประเทศไทย กล่าวว่า การฟังเพลงผ่านสตรีมมิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้คน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยนิยมฟังผ่านสมาร์ทโฟนถึง 75% มิวสิคคอนเทนต์ใหม่ๆ และ MV ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดผู้ฟัง

โดยข้อมูลจาก IFPI Global Music Report 2561 เผยภาพรวมรายได้ตลาดมิวสิคสตรีมมิ่งทั่วโลกปี 2560 เติบโตขึ้น 41.1% จากมูลค่ารายได้รวมทั้งหมดราว 17.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มิวสิคสตรีมมิ่งมีสัดส่วนรายได้สูงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 38% นำหน้าการขายแผ่นเสียง ซีดี และเทปที่มีสัดส่วนอยู่ราว 30% ของรายได้ทั้งหมด

เทรนด์การฟังเฟลงสตรีมมิ่งที่เติบโตขึ้น ทำให้ก้าวปีที่ 4 ของ JOOX ได้วางเป้าหมายสู่การเป็น “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์แพลตฟอร์ม” เต็มรูปแบบ เชื่อมทุกโมเมนต์ทางดนตรีเข้ากับการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัล ยึดกลยุทธ์ O2O2O (Online to Offline and back to Online Experience) ผสานแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน สร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมดนตรีแบบไร้ข้อจำกัด ทั้งแนวเพลง ศิลปิน และค่ายเพลง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดมิวสิคสตรีมมิ่งด้วยการเดินหน้าสร้างชุมชนคนรักเสียงดนตรี ผ่านฟีเจอร์ VDO Karaoke, Live Concert จากเกาหลี และเพิ่มเอ็กคลูซีฟคอนเทนต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วย Collaboration Projects เชื่อมโลกดนตรีไร้พรมแดน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างศิลปินไทยด้วยกันเอง หรือดึงศิลปินต่างประเทศมาร่วมงาน

โดยเป้าหมายการทำตลาดในปีนี้ กฤตธี มองไปที่การขยายฐานผู้ฟังสู่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นตลาดที่ JOOX ยังเข้าถึงได้ไม่มากนัก และตลาดเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่มีประชากรมากถึง 50 ล้านคน ด้วยการเน้นโมเดล Collaboration Project ในการสร้าง exclusive content ให้มากยิ่งขึ้น ทั้งการนำศิลปินลูกทุ่งมาร่วมร้องเพลงกับศิลปินระดับ Mainstreams และนำศิลปินไทยทำโปรเจกต์ร่วมกับศิลปินเมียนมา

ในส่วนการพัฒนาแพลตฟอร์มจะเน้นสร้าง community คนรักเสียงดนตรี จากความนิยมของฟีเจอร์ Karaoke ที่เปิดบริการตั้งแต่ปีที่แล้ว มียอดการร้องสูงถึง 5 ล้านครั้ง และมีการแชร์เพลงที่ร้องแบบคาราโอเกะไปถึง 2.6 ล้านครั้ง โดยในปีนี้  JOOX ได้นำ Influencer ในด้านต่างๆ เข้ามาสร้างความบันเทิงกับผู้ฟังมากขึ้น ผ่านฟีเจอร์ใหม่ JOOX VDO Karaoke เพิ่มลูกเล่นต่างๆ ด้านวิดีโอ ให้ทุกคนสนุก และมีความสุขไปกับการร้องเพลงบนแพลตฟอร์มของ JOOX รวมถึงพัฒนาแอพพลิเคชันให้ใช้งานง่ายขึ้น สำหรับผู้สูงวัย นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเว็บไซต์ www.joox.com เป็นช่องทางการฟังเพลงผ่านพีซี เพราะเชื่อว่าคนต่างจังหวัดยังใช้พีซีกันอยู่มาก

สำหรับการหารายได้ของ JOOX นอกจากการหารายได้จากการสมัครสมาชิก VIP และการทำ Media Partner ของแบรนด์สินค้าต่างๆ แล้ว ในปีนี้ จะมีการทำ Live Streaming โดยเปิดให้ผู้ชมสามารถแสดงความรู้สึกด้วยการซื้อสติกเกอร์ ผ่านการซื้อเหรียญบนแอพพลิเคชัน JOOX ก็จะเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง