เทรนด์การท่องเที่ยวของคนทั่วโลกในวันนี้ ถูกดิจิทัลปรับเปลี่ยนจากการซื้อทัวร์ให้มืออาชีพโบกธงพาเที่ยว มาเป็นการหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ซื้อตั๋วเครื่องบิน ติดต่อที่พัก แล้วแบกกระเป๋าเที่ยวเอง
ดิจิทัลได้คุกคามบริษัททัวร์ รูปแบบการจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวแบบเดิมๆ ให้ซบเซา หลายบริษัทปิดตัวลง และเปิดโอกาสให้กับ Online Travel Agent หรือ OTA เติบโตขึ้นมาทดแทน
ทราเวลโลก้า คือหนึ่งใน OTA ที่มีบทบาทในตลาดท่องเที่ยวเมืองไทย โดยมีจุดเริ่มต้นในปี 2012 สามวิศวกรชาวอินโดนีเชีย พบความยุ่งยากในการจองตั๋วเครื่องบินบนเว็บไซต์ จึงร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มในการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ที่สะดวกอย่างที่ต้องการ เริ่มทำตลาดในประเทศอินโดนีเซีย ก่อนขยายออกสู่เพื่อนบ้านอาเซียน โดยประเทศไทยที่เริ่มธุรกิจในปี 2015 เป็นประเทศที่ 2 ตามมาด้วยมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ พร้อมเปิดบริการจองที่พักควบคู่ไปด้วย
ธีร์ ฉายากุล Country Manager ทราเวลโลก้า ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทราเวลโลก้ารองจากอินโดนีเซีย จากข้อมูลมูลค่าตลาดการท่องเที่ยว รายได้จากคนไทยเที่ยวไทย 9.3 แสนล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 5.4% โดยรายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวม 2 ล้านล้านบาท มีสัดส่วน 19-20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
“ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจ OTA เติบโตเป็นผลมาจากการขยายตัวของกลุ่มคนชั้นกลางที่มีรายได้มากขึ้น กลุ่มคนเหล่านี้จะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวและยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์การท่องเที่ยวมากขึ้น นอกจากนั้นการแข่งขันของสายการบินยังเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ผู้คนออกเดินทางมากขึ้น”
ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทราเวลโลก้ามีสัดส่วนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มการท่องเที่ยวและการบิน ด้วยยอดดาวน์โหลด 40 ล้านดาวน์โหลดรวมทุกประเทศที่เปิดให้บริการ โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ ทราเวลโลก้าจึงตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในด้านการให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด #Enabling Mobility”
โดย 3 ปัจจัยหลัก ที่ธีร์มองว่าเป็นส่วนขับเคลื่อนให้ทราเวลโลก้า ก้าวสู่ผู้นำในตลาด ประกอบด้วย
Data Innovation จุดแข็งจากการเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทราเวลโลก้านำ Big Data ของลูกค้าจากทุกช่องทางออนไลน์ มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อเข้าถึงความต้องการหรือความชอบของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ พร้อมพัฒนาเป็นฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคต
Customer Centric ความต้องการของลูกค้าจาก Big Data ถูกนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น รวมถึง บริการหลังการขายต่างๆ ที่ตอบโจทย์ อาทิ ช่องทางการชำระเงิน ที่ปัจจุบัน ทราเวลโลก้าสามารถตอบโจทย์ช่องทางการชำระเงินได้มากที่สุด บริการให้ลูกค้าเปลี่ยนเที่ยวบินด้วยตัวเอง การขอคืนเงิน และการทำธุรกรรมอื่นๆ ได้สะดวกสบายผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น เป็นต้น
Content Marketing การสร้างช่องทางการสื่อสารเป็นของตัวเอง และยังคงเน้นที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน Social Media และ เว็บบล็อก เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนรู้สึกอยากท่องเที่ยว และทราเวลโลก้าเข้ามาช่วยให้การจัดการการเดินทางง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด ทราเวลโลก้าได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยตอบโจทย์นักเดินทางที่มองหารูปแบบการจองที่ครบจบในขั้นตอนเดียว คือ การจองแพ็กเกจตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พัก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น และบริการ Airport Transport จองรถเพื่อรับออกจากสนามบินสู่โรงแรม เพื่อให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากสนามบิน
ธีร์ มองการแข่งขันของธุรกิจ OTA ว่า แม้มีการนำเสนอด้านราคาที่ต่ำสุดมาเป็นจุดขาย แต่ทราเวลโลก้า มองว่า ราคาต่ำสุดแม้เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ต้องนำเสนอการบริการที่ดีที่สุดควบคู่ไปด้วย โดยทราเวลโลก้า จะนำเสนอราคาที่สามารถแข่งขันได้ และมีบริการที่ดี ตรงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก
“ทราเวลโลก้ามุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว ลูกค้าทราเวลโลก้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การจองที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว อีกทั้งแสดงราคาที่เห็นเป็นราคาสุดท้าย มีศูนย์บริการคอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง รับประกันการจองห้องพัก พร้อมสำรองห้องพักให้ใหม่หากที่พักที่จองมีปัญหา พร้อมข้อเสนอพิเศษและส่วนลดมากมาย โดยมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางทุกกลุ่ม”
ขอบคุณภาพจาก Facebook : @Traveloka TH
