อุตฯท่องเที่ยวไทยปี’61 หัวทิ่ม! ตลาดจีนฉุดรายได้ต่ำเป้า ดึงธุรกิจสายการบิน-โรงแรมทรุดตาม

3470

ต้องยอมรับว่าในปี 2561 นี้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยต้องเผชิญความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะการแข่งขันจากหลาย ๆ ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ยังคงตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยไว้ที่ 10% จากปีก่อน หรือ มีรายได้รวมที่ 3.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.1 ล้านล้านบาท และรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือตลาดไทยเที่ยวไทยอีก 1 ล้านล้านบาท

ทว่า สถานการณ์ในขณะนี้ดูเหมือนว่าตัวเลขทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้คงจะไปไม่ถึงฝันเสียแล้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ทั้งในแง่จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวเกิดสะดุดอย่างแรง หลังจากเกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต ไล่มาถึงปัญหา “ทิป” visa on arrival รวมถึงเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวจีนคาสนามบิน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนทั้งสิ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มาแบบ “กรุ๊ปทัวร์”

จากรายงานของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ในฐานะหน่วยงานดูแลนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ (กรุงเทพฯ) ระบุว่า ในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ปีนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านสมาคมแอตต้าจำนวน 2.54 ล้านคน ลดลงเฉลี่ย 26.55%

โดยในเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงเกิดเหตุเรือล่มนั้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวของสมาคมแอตต้า ลดลง 22.17% เดือนสิงหาคมลดลง 36.49% เดือนกันยายนลดลง 39.19% และยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนตุลาคมต่อเนื่องถึงเดือนธันวาคมปีนี้แน่นอน ซึ่งในช่วงต้นเดือนเดือนตุลาคม (1-7 ตุลาคม) เป็นช่วงวันหยุดยาวคนจีน หรือที่เรียกว่า “โกลเด้น วีค” นั้น ก็ยังพบว่า นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจน โดยลดลงไปราว 36% (ดูตารางประกอบ)

ขณะที่ “อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้คาดการณ์ว่า ยอดรวมนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไตรมาส 3/2561 จะมีจำนวนที่ราว 2.21 ล้านคน ลดลง 17.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560

และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2561 นี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนรวม 1.85 ล้านคน ลดลงราว 25.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้แคาดว่าในปี 2561 นี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ประมาณ 9.9 ล้านคน ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่มีทั้งหมด 9.8 ล้านคน

พร้อมทั้งยังคาดว่าในปี 2561 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 37.19 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.08% เมื่อเทียบกับปี 2560 จากเดิมที่คาดว่าน่าจะมีจำนวนราว 39 ล้านคน และสร้างรายได้รวมที่มูลค่า 1.97 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.16% เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จำนวน 2.1 ล้านล้านบาท

ด้าน “พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์” ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แถลงว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 28.54 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 8.71 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยจีนยังคงเป็นตลาดที่มีนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวน 8.37 ล้านคน และสร้างรายได้รวม 1,49 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.95 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ “ไทยเที่ยวไทย” สร้างรายได้มูลค่า 6.95 แสนล้านบาท

รวม 9 เดือนแรกที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรวม 2.18 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้นเริ่มเห็นสัญญาณการย่อตัวมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลไป 0.87% เดือนสิงหาคมลดลง 11.77% และล่าสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องที่ระดับ 14.89%  อย่างไรก็ตาม  กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเชื่อมั่นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนโดยรวมปีนี้จะอยู่ที่ราว 10 ล้านคน

แหล่งข่าวธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า จากแนวโน้มการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของตลาดนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมดนั้นส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวต่างได้รับผลกระทบกันทุกแขนง ทั้งสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ผู้ให้บริการรถเช่า ฯลฯ

โดยในส่วนของธุรกิจสายการบินนั้นพบว่า สายการบินทั้งที่ให้บริการแบบฟลูเซอร์วิสและโลว์คอสต์แอร์ไลน์ต่างได้รับผลประทบอย่างหนัก เนื่องจากนอกจากปัจจัยเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงแล้วยังเผชิญกับปัจจัยลบด้านราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายยฝ่ายคาดการณ์ว่า ในปี 2561 นี้จะเป็นปี “ฝันร้าย” อีกปีหนึ่งของธุรกิจสายการบินของไทยเลยทีเดียว

สอดรับกับ “เบญจ มอนโกเมอรี่” ประธานฝ่ายต่างประเทศ สมาคมโรงแรมไทย (THA) ที่ระบุชัดเจนว่า ภาพรวมการจองห้องพักในกลุ่มที่เป็นสมาชิกของสมาคมโรงแรมไทยในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมที่ผ่านมา อัตราการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่ภาคใต้ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกอยู่ในระดับที่ดี โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมในพื้นที่ภาคใต้เฉลี่ยอยู่ที่ 82% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 85.4%

ส่วนการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงปลายปีนี้นั้นขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่ถือว่าภาพรวมในปีนี้มาช้ามาก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบโดยตรงจากตลาดจีนก็ยังมีปัญหาต่อเนื่องนั่นเอง

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า “วิกฤต” รอบนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างหนักในทุกแขนงอย่างแท้จริง..