เปิดวิชั่น “พศิน ลาทูรัส” ส่งต่อแบรนด์ NaRaYa สู่โกลบอลแบรนด์

3042

หากจะพูดว่า แบรนด์ “NaRaYa” ปัจจุบันเป็นแบรนด์ไทยระดับอินเตอร์ก็คงไม่ผิดนัก เพราะเป็นสินค้าที่ชาวต่างชาติรู้จักดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยุโรปหรือชาวเอเชีย

แต่ความเป็นแบรนด์อินเตอร์ในปัจจุบันยังสามารถต่อยอดให้มั่นคงได้อีก ตามแนวคิดของ “พศิน ลาทูรัส” ทายาทคนเดียวของ วาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร แบรนด์ NaRaYa ภายใต้บริษัท นารายอินเตอร์เทรด จำกัด

วันนี้ Naraya เกิดขึ้นมากว่า 24 ปี เรียกได้ว่าเกิดมาพร้อมๆ กับทายาทคนเดียวของครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพราะ “พศิน” ก็มีอายุ 24 ปีเช่นกัน

“วิชั่นของผมคือ อยากให้นารายาเป็นโกลบอลแบรนด์ มีคนพูดว่านารายาเหมือนซาร่า เรามีวาไรตี้ ถ้าเราเป็นแบบนั้นได้ ผมก็หวังว่าซักวันคนจะบอกว่า ทำแบบนารายา”

เส้นทางในการสานฝันต่อยอดธุรกิจของครอบครัวกำลังเดินหน้าเต็มที่ เพราะ “พศิน” พร้อมลุยเต็มที่ด้วยการยอมหยุดกิจกรรมการแข่งขันรถที่เขารักและชื่นชอบลงชั่วคราว เพื่อเข้ามาลุยงานของ NaRaYa แบบเต็มตัว โดยเข้ามานั่งทำหน้าที่ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหารตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา

พศิน ลาทูรัส และวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส

ผมเห็นพ่อแม่ทำงานหนักและธุรกิจยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกเยอะ ผมก็อยากจะเข้ามาช่วยต่อยอด ส่วนของการแข่งรถตอนนี้ผมเป็นแชมป์เอเชียแล้ว ถือว่ามาถึงจุดๆ หนึ่งที่ผมภูมิใจ แม้จะยังมีอีก 2-3 รายการ ที่อยากแข่ง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นตอนนี้”

พศิน” บอกว่า นารายาเหมือนพี่ชายของเขาและวันที่เขาเกิด 3 ธันวาคม 2536 ก็เป็นวันเดียวกับที่คุณแม่เปิดร้านจำหน่ายกระเป๋าผ้า ภายใต้แบรนด์ “นารายา” วันแรกที่นารายณ์ภัณฑ์

นักบริหารหนุ่มคนนี้บอกว่า เขาเห็นโอกาสในการเติบโตของแบรนด์นารายา มีอีกหลายๆ มุมที่นารายายังไม่เคยทำ และด้วยความรู้ที่ร่ำเรียนมาทางด้าน Business Management เขาจึงเข้ามาช่วยดูแลงานในส่วนของการตลาดและการสร้างแบรนด์

ก่อนที่จะเข้ามาจับงานการตลาดเขาได้สัมผัสงานในโรงงานมาแล้ว และได้พัฒนาคลังสินค้าใหม่ ที่ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร เป็นคลังสินค้าที่ถูกดีไซน์ให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งานอย่างเต็มที่ เพิ่มความสะดวกให้กับพนักงานในการการหยิบจับสินค้าถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี (working environment) ให้กับพนักงาน

ส่วนในแง่ของการตลาด “พศิน” มองว่า ผลิตภัณฑ์ของนารายาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้ามาเลือกใช้ได้ เพราะมีความหลากหลายและวาไรตี้มากๆ และเขาก็เห็นผู้หญิงหลายๆ คนที่ถือกระเป๋าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ แต่เมื่อเปิดกระเป๋าเข้าไปจะพบกระเป๋าผ้าของนารายาอยู่ในนั้น

แผนการตลาดที่ผู้บริหารหนุ่มคนนี้เริ่มทำคือ การสื่อสารแบรนด์ถึงผู้บริโภคด้วยการเล่าเรื่องราวถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากฝีมือของชาวบ้านเกือบ 6,000 คน นารายาเป็นสินค้าแฮนด์เมดจากฝีมือคนไทยจริงๆ และเป็นงานฝีมือที่เครื่องจักรเข้ามาแทนที่ไม่ได้

โฉมร้าน NaRaYa : ภาพจาก you2morrow

เมื่อสื่อสารแบรนด์ถึงผู้บริโภคแล้ว การปรับปรุงแต่งโฉมร้านนารายาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าที่เข้าร้านเกิดความประทับใจ ทั้งดีไซน์ของร้านและเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ Magic Mirror ที่ติดตั้งอยู่ในช็อปเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนสีเสื้อผ้าได้โดยไม่ต้องเดินเข้าออกห้องลองหลายครั้ง

และด้วยเป้าหมายในใจที่ “พศิน” ต้องการผลักดันให้นารายาเป็นแบรนด์ระดับโกลบอล ช่องทางการขายจึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเติบโตให้ทันกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป และต้องขยายได้ทั่วถึง ไม่เพียงแค่ตลาดในเมืองไทยเท่านั้น

โดยขณะนี้เขาเริ่มต้นส่งแบรนด์นารายาเข้าตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย อาทิ ลาซาด้า เจดีดอทคอม และช้อปปี้ พร้อมทำตลาดผ่านแพลตฟอร์ม Yungee และ VIP.com ทำให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าถึงนารายาได้ง่ายๆ

เป้าหมายในการผลักดันนารายาไปสู่โกลบอลแบรนด์ไม่ใช่เรื่องยากและก็ไม่ง่ายนัก แต่ถ้านักบริหารรุ่นใหม่คนนี้สามารถทำได้ “นารายา” จะไม่ใช่เพียงความภาคภูมิใจของ “พศิน ลาทูรัส” เท่านั้น แต่ยังถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยได้เลยทีเดียว