เปิดพอร์ต “ชาตรี โสภณพนิช” ผู้ชายที่อยู่กับตัวเลขมาทั้งชีวิต

7698

ปี 2561 นับเป็นปีที่ ชาตรี โสภณพนิช เริ่มชีวิตการทำงานมาครบ 60 ปีเต็ม เป็นปีที่นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 26 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 45,570 ล้านบาท และเป็นปีที่ ‘เจ้าสัวชาตรี’ ถึงแก่กรรมในวัย 85 ปี เมื่อค่ำวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา

‘เจ้าสัวชาตรี’ นับเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งในสายการเงินการธนาคารของไทยและในระดับนานาชาติ ยิ่งเมื่อย้อนดูประวัติการศึกษาและการทำงาน กล่าวได้ว่าไม่เคยมีช่วงตอนใดของชีวิตที่นายธนาคารผู้นี้เดินออกนอกเส้นทางสายตัวเลขเลยสักครั้ง

หลังจบการศึกษาด้านการบัญชีชั้นสูงจาก Kwang Tai High Accountancy College ที่ฮ่องกง ชาตรีเดินทางไปศึกษาต่อด้านการธนาคารที่ The Regent Street Polytecnic of London และที่ The Institute of Bankers รวมทั้งยังได้ฝึกงานที่ The Royal Bank of Scotland ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนกลับมาเริ่มต้นทำงานที่บริษัท เอเชียทรัสต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทส่วนตัวของชิน โสภณพนิช ผู้เป็นบิดา เมื่อปี 2501 และในปีถัดมา ชาตรีจึงเข้าทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ

จากตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการบัญชี ในปี 2502 ชาตรีใช้เวลานานถึง 21 ปี จึงได้ขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในปี 2523 ด้วยวัย 47 ปี และนับแต่นั้น ธนาคารกรุงเทพภายใต้การบริหารของ ‘โสภณพนิช’ รุ่นที่ 2 ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคเอเชีย ก่อนที่จะส่งต่ออำนาจการบริหารงานให้ ชาติศิริ โสภณพนิช บุตรชายคนโตในฐานะ ‘โสภณพนิช’ รุ่นที่ 3 ขณะที่ชาตรีขยับขึ้นเป็นประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ ในปี 2535

นอกจากเส้นทางการทำงานที่น่าศึกษาของ ‘เจ้าสัวชาตรี’ แล้ว เส้นทางการลงทุนของมหาเศรษฐีอันดับ 26 ของไทย ผู้มีทรัพย์สินรวมถึง 45,570 ล้านบาท ก็น่าสนใจไม่น้อย จากรายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 พบว่า มีชื่อ ‘ชาตรี โสภณพนิช’ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน 13 บริษัท ประกอบด้วย

1.ASK – บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 5 จำนวน 11,436,607 หุ้น คิดเป็น 3.25% ราคาหุ้น 22.10 บาท รวมมูลค่า 252,749,457 บาท

2.ASP – บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 4 จำนวน 96,497,310 หุ้น คิดเป็น 4.58% ราคาหุ้น 3.80 บาท รวมมูลค่า 366,689,778 บาท

3.BBL – ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 14 จำนวน 17,278,478 หุ้น คิดเป็น 0.91% ราคาหุ้น 192.50 บาท รวมมูลค่า 3,326,107,015 บาท

4.BH – บริษัท บำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 16 จำนวน 3,695,635 หุ้น คิดเป็น 0.51% ราคาหุ้น 176 บาท รวมมูลค่า 650,431,760 บาท

5.BKI – บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 8 จำนวน 2,514,033 หุ้น คิดเป็น 2.36% ราคาหุ้น 353 บาท รวมมูลค่า 887,453,649 บาท

6.BLA – บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 5 จำนวน 63,967,204 หุ้น คิดเป็น 3.75% ราคาหุ้น 31.50 บาท รวมมูลค่า 2,014,966,926 บาท

7.CNS – บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 5 จำนวน 14,193,000 หุ้น คิดเป็น 0.66% ราคาหุ้น 2.52 บาท รวมมูลค่า 35,766,360 บาท

8.CSR – บริษัท เทพธานีกรีฑา จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 12 จำนวน 141,750 หุ้น คิดเป็น 0.69% ราคาหุ้น 64.50 บาท รวมมูลค่า 9,142,875 บาท

9.DTC – บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 4 จำนวน 42,439,600 หุ้น คิดเป็น 4.99% ราคาหุ้น 12.90 บาท รวมมูลค่า 547,470,840 บาท

10.GLAND – บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 10 จำนวน 182,821,600 หุ้น คิดเป็น 3.07% ราคาหุ้น 2.46 บาท รวมมูลค่า 449,741,136 บาท

11.SMIT – บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 11 จำนวน 14,400,000 หุ้น คิดเป็น 2.72% ราคาหุ้น 5.60 บาท รวมมูลค่า 80,640,000 บาท

12.TRT – บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 22 จำนวน 2,192,040 หุ้น คิดเป็น 0.71% ราคาหุ้น 2.42 บาท รวมมูลค่า 5,304,736.80 บาท

13.UVAN – บริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นลำดับที่ 28 จำนวน 5,491,180 หุ้น คิดเป็น 0.58% ราคาหุ้น 7.55 บาท รวมมูลค่า 41,458,409 บาท

รวมมูลค่าหุ้นเฉพาะที่ ‘เจ้าสัวชาตรี’ ถือครองในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งสิ้น 8,667,922,940 บาท ไม่นับรวมกับที่ถือครองผ่านธนาคารกรุงเทพและบริษัทในเครือ รวมทั้งหุ้นรายย่อยในบริษัทต่างๆ

ขณะที่ข้อมูลกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเดือนเมษายน 2561 ระบุว่า  ชาตรี โสภณพนิช มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทต่างๆ ดังนี้

1.บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด  ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 9 แต่ไม่แสดงสัดส่วนการถือหุ้น (มีชื่อเป็นกรรมการ) ซึ่งบริษัทนี้ถือหุ้นโดยบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน 99.9997%

2.บริษัท เอเชีย คลังสินค้า จำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ถือหุ้น 12.8570% มูลค่า 6,428,000 บาท

3.บริษัท สหวิสว-มหาไทย จำกัด ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ไม่แสดงสัดส่วนการถือหุ้น

4.บริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด ปัจจุบันแปรสภาพเป็น บริษัท ปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 4,670,523,072 บาท ถือหุ้น 1.1797% มูลค่า 55,098,180 ล้านบาท

5.บริษัท สหยูเนียน จำกัด ปัจจุบันแปรสภาพเป็น บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท โดยมีบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 4.11001% มูลค่า 123,250,000 บาท

6.บริษัท บางกอก โพลีเอททีลีน จำกัด ปัจจุบันแปรสภาพเป็น บริษัท บางกอกโพลีเอททีลีน จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท ไม่แสดงสัดส่วนการถือหุ้น มีชื่อเป็นกรรมการ

7.บริษัท คาโปรแลคตัมไทย จำกัด ปัจจุบันแปรสภาพเป็น บริษัท คาโปรแลคตัมไทย จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 8,659,904,530 บาท บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 1.3749% มูลค่า 117,915,850 บาท

8.บริษัท แชงกรี-ล่า โฮเทล จำกัด  เป็นกรรมการ ปัจจุบันได้แปรสภาพเป็น บริษัท แชงกรี-ล่า โฮเทล จำกัด (มหาชน) ทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 2.18% มูลค่า 28,326,000 บาท

นอกจากนี้ ชาตรียังเคยเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในอีกหลายบริษัท ทั้งที่ปิดตัวไปแล้วและที่แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนแล้ว อาทิ บริษัท เกียรตินครหลวงเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด, บริษัท จตุรบุตรโฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท ชาตรี โสภณ จำกัด, บริษัท ร่วมทุน เอเชีย จำกัด, บริษัท ศรีโสภณอินเวสต์เม้นท์ จำกัด, บริษัท โสภณการลงทุน จำกัด, บริษัท เอเชียอุตสาหกรรมค้าไม้ จำกัด, บริษัท แคน-เทรด จำกัด, บริษัท เทคโนโลยี พาร์ค จำกัด, บริษัท ไทยเคมีคอลไฟเบอร์ จำกัด, บริษัท ไทยป๊อบปลิน จำกัด, บริษัท ไทยฟรังโก โฮลดิ้ง จำกัด, บริษัท ไทยอุตสาหกรรมน้ำมันและสวนปาล์ม จำกัด, บริษัท บางกอกแลนด์จำกัด เป็นต้น

เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ที่ปรึกษาศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ : ประพันธ์

บางบริษัทอาจปิดตัวไปอย่างเงียบๆ แต่สำหรับ “ชาตรี โสภณพนิช” นี่คือการปิดฉากการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผู้ชายที่อยู่กับตัวเลขมาตลอดชีวิตจะบันทึกไว้ให้นักการเงินการธนาคารรุ่นหลังได้รำลึกถึง