ไม้กับเทรนด์ของการแต่งบ้านไม่เคยหนีกันไปไหน !
วันนี้ไม่เพียงแต่โครงการบ้านแนวราบ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม จะดีไซน์โครงการด้วยการนำไม้มาตกแต่งเท่านั้น คอนโดมิเนียม ศูนยการค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือร้านกาแฟ ก็ถูกออกแบบตกแต่งด้วยไม้กันอย่างแพร่หลาย
แต่ไม้ไม่ใช่วัสดุที่หาได้ง่ายในปัจจุบัน ราคาที่สูงลิ่ว อีกทั้งอายุการใช้งาน และความทนทานก็มีน้อยกว่า วัสดุแทนไม้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หนึ่งในผู้นำของตลาดวัสดุทดแทนไม้ด้วยไฟเบอร์ซิเมนต์ ที่ใช้สำหรับการตกแต่ง “คอนวูด” ในกลุ่มบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสที่จะขยายการเติบโตเป็นตัวเลขถึง 2 หลักจากปีที่ผ่านมา จากความแพร่หลายในการใช้งานไฟเบอร์ซิเมนต์แทนไม้เพื่อการตกแต่ง ทั้งในและต่างประเทศ
“ตลาดวัสดุทดแทนไม้มีแนวโน้มเติบโต ทั้งการใช้งานในประเทศและการส่งออก เพื่อทดแทนไม้จริงและวัสดุประเภทอื่น ๆ ซึ่งวัสดุทดแทนไม้มีความหลากหลายมากขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในหลายรูปแบบ ประกอบกับตลาดและมุมมองของผู้ใช้งานเริ่มมองไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นมากกว่าวัสดุทดแทนไม้ “ กิตติ บุญประคอง รองประธาน บริษัท คอนวูด จำกัด ในกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง เผย
คอนวูด เป็นแบรนด์ผู้ผลิตวัสดุแทนไม้ ที่มีสินค้าออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2546 จากโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี บนเนื้อที่ 139.5 ไร่ สร้างนวัตกรรมด้านวัสดุตกแต่งบ้านที่ไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจเน้นเรื่องการรักษาสมดุลของระบบนิเวศวิทยา โดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ใช้วัตถุดิบที่ปราศจากสารพิษ และมุ่งเน้นการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติให้มีประโยชน์สูงสุด และยังเป็นการช่วยลดปัญหามลภาวะเป็นพิษเนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรม
กิตติ กล่าวว่า จุดเด่นสำคัญของเทคโนโลยีการผลิตจากสวิสเซอร์แลนด์ในการผลิตวัสดุแทนไม้ ไฟเบอร์ซิเมนต์ คอนวูด คือ การให้ความเสมือนไม้จริง ตั้งแต่สี ลายเสี้ยนไม้ รวมไปผิวสัมผัสที่มีความอุ่นเหมือนกับการสัมผัสไม้จริง ด้วยการใช้ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์และเยื่อเซลลูโลส ไม่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ทนทาน ปลวกไม่กิน ไม่ติดไฟ ตอบสนองงานออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งทุกพื้นที่ภูมิสถาปัตย์
ปัจจุบัน วัสดุแทนไม้คอนวูด ถูกนำไปใช้กับโครงการที่พักอาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงร้านกาแฟ อาทิ โครงการที่พักอาศัยแนวราบของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ตั้งแต่โครงการนันทวัน, ชัยพฤกษ์, Villaggio โครงการ Casa Presto ของคิวเฮ้าส์ , โครงการ Food Villa ราชพฤกษ์, ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟอะเมซอน, สถาบันคึกฤทธิ์ และมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น
ความนิยมการใช้วัสดุแทนไม้ที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ คอนวูด ประกาศรุกตลาดอย่างเต็มตัว ด้วยการเปิดบริการ 1Stop Service ในชื่อ “i Service” ที่สามารถให้บริการตั้งแต่ผลิตภัณฑ์วัสดุแทนไม้ สีทาวัสดุ และบริการติดตั้งด้วยทีมงานมืออาชีพของบริษัท เป็นรายแรกในประเทศไทย ผ่านหมายเลขคอลล์เซ็นเตอร์ 1732 กด 4
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีครบตั้งแต่ ไม้ฝา ไม้ผนัง ไม้รั้ว ไม้พื้น ไม้เชิงชาย ไม้บังตา ไม้ตกแต่ง โดย กิตติ กล่าวว่า คอนวูดจะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งในกลุ่มการใช้งานทั่วไปและกลุ่มผลิตภัณฑ์ตกแต่ง เน้นจุดขายด้านคุณภาพ ดีไซน์ และความสวยงาม ซึ่งในปีนี้ คอนวูดเสนอนวัตกรรมใหม่ ไฮไลท์ คือ ไม้เชิงชาย คอนวูด รุ่นฟิต (CONWOOD EAVE FIT) ออกแบบรองรับรูปแบบหลังคาทรงโมเดิร์น (Lean-to Roof) เพิงหมาแหงน ช่วยให้การปิดด้วยแผ่นครอบสังกะสี (Flashing) เรียบร้อย สวยงาม แข็งแรง ลดปัญหาแผ่นครอบสังกะสีโก่งตัวจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ติดตั้งง่ายด้วยไม้เชิงชายแผ่นเดียว ช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างหลังคาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ คอนวูดยังมีผลิตภัณฑ์ รุ่นทูอินวัน ซึ่งเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง เนื่องจากคอนวูดเป็นรายแรกที่จำหน่ายไม้เชิงชาย ทูอินวัน ซึ่งเป็นเชิงชายแผ่นเดียวที่ให้ความรู้สึกเหมือนนำเชิงชาย 2 แผ่นมาประกบกัน
อีกหนึ่ง Innovative Product จากผลิตภัณฑ์ ไม้ผนังบังใบ คอนวูด ซี-ล็อค (CONWOOD LAP SIDING C-LOCK) รุ่น G-SERIES ซึ่งใช้ตกแต่งผนังของอาคารที่อยู่อาศัย สำหรับพื้นที่ของผนังปูนคอนกรีตที่ต้องการอารมณ์เหมือนไม้จริง ใช้เทคนิคการติดตั้งด้วยระบบการล็อก ไม่ต้องสกรูผ่านเนื้อไม้ให้เป็นรู ทำให้ติดตั้งได้รวดเร็ว สวยงาม ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งผลิตภัณฑ์สี หรือ CONWOOD Color เพื่อตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น เสริมเข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตกแต่งมากขึ้น โดยมีเฉดสีให้เลือก 4 เฉดสีในช่วงเริ่มต้น และจะมีการเพิ่มเฉดสีให้มากขึ้นในอนาคต ในระยะเริ่มต้นผู้บริหารคอนวูด ได้วางแผนให้สีคอนวูดเติบโตควบคู่กับการเติบโตของผลิตภัณฑ์ไม้ต่าง ๆ ของคอนวูด ในฐานะผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ตกแต่งให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 10 ล้านบาท
ขณะที่บริการติดตั้งเริ่มจากการให้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยทีมให้บริการ 6 ทีม ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มดูหน้างานจนติดตั้งเสร็จสิ้น 2-3 วัน และปีนี้ก็มีแผนจะออกไปให้บริการให้หัวเมืองใหญ่ เช่น ชลบุรี ซึ่ง โดยกิตติ ให้ยืนยันว่าค่าบริการจะไม่สูงกว่าการหาช่างติดตั้งเองแน่นอน อีกทั้งมีการรับประกันงานถึง 1 ปี
กิตติคาดว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ ไฟเบอร์ซิเมนต์ในประเทศไทย มีมูลค่าราว 5-6 พันล้านบาทต่อปี โดยในปี 2561 จะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 5% จากปี 2560 ขณะที่แผนการรุกตลาดของคอนวูดในปีนี้ คาดว่าจะทำให้บริษัทมีการเติบโตในอัตรามากกว่า 2 หลักแน่นอน โดยมองกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือบ้านที่ต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ หรือต้องการต่อเติม เป็นตลาดสำคัญ
นอกจากนี้ในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียที่มีโรงงานของคอนวูดตั้งอยู่ ในวันนี้ตัวเลขรายได้อาจยังมีไม่มาก แต่คอนวูดก็จะรุกตลาดในแต่ละประเทศให้มากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดสู่ภูมิภาคอื่นๆ โดยเป้าหมายอยู่ทีกลุ่มประเทศเอเชียใต้ เช่น ศรีลังกา ที่เป็นประเทศน่าสนใจที่คอนวูดจะเข้าไปทำตลาดเช่นกัน
