10 นาฬิกาเศษ…ประตูศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์เพิ่งเปิดยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมง แต่ที่บริเวณควอเทียร์แกลอรี่ ชั้น M กลับคึกคักไปด้วยแฟนคลับหลากหลายวัยที่มารอชื่นชมดารานักแสดงนำจากซีรี่ส์อินเดียยอดนิยมในงาน The Influencer “เพราะเรารักกัน ไม่มีวันสิ้นสุด” งานฉลองครบรอบ 8 ปีของการก่อตั้งช่องสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม JKN Dramax ซึ่งตามกำหนดการ กว่าดาราคนโปรดตัวเป็นๆ จะขึ้นเวทีโชว์ตัวก็หลังบ่ายโมงไปแล้ว แต่แฟนคลับหลายร้อยคนก็พร้อมจะเข้าคิวรอร่วมกิจกรรมเพื่อลุ้นสิทธิ์ Meet & Greet หลังจบงานอย่างไม่มีใครยอมถอย
“เราใช้ชื่องานว่า The Influencer “เพราะเรารักกัน ไม่มีวันสิ้นสุด” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการสร้างกระแสภารตะพันล้านในบ้านเราค่ะ” ‘คุณแอน’ จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดประเด็นว่าด้วยการจัดงานในวันนี้
ย้อนหลังไปในช่วงที่กระแส K-Series ร้อนแรงในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น จูมง มหาบุรุษกู้บัลลังก์, ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์, เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา, คอฟฟี่ปรินซ์ ฯลฯ ‘คุณแอน’ คือผู้คัดเลือกและซื้อลิขสิทธิ์ซีรี่ส์เกาหลีเหล่านั้นนำเข้ามาเสนอขายให้ช่องฟรีทีวี แต่ครั้นเมื่อเดินทางไปประเทศอินเดียแล้วได้ดูซีรี่ส์เรื่อง “ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ” (Diya Aur Baati Hum) เป็นครั้งแรก เส้นทางสายภารตะพันล้านจึงเริ่มก่อตัวนับตั้งแต่วันนั้น
“วันแรกที่เราได้เห็นซีรี่ส์เรื่องนี้ที่อินเดีย เราเห็นเลยว่าน่าจะถูกรสนิยมคนไทย เพราะเราเองชมครั้งแรกก็อยากติดตาม เรียกว่าติดหนึบเลย เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นการจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้แอนเริ่มต้นในการนำซีรี่ส์อินเดียเข้ามาให้ผู้ชมชาวไทยได้บริโภค ทั้งที่ตอนนั้นคนไทยยังนิยมละครเกาหลีและหนังจีนอยู่เลย”
“JKN Dramax จึงถือได้ว่าเป็นช่องแรกที่นำซีรี่ส์อินเดียมาลงจอ และก็เป็นเรื่องแรกของทาง JKN ที่ประสบความสำเร็จแบบอุตลุดมหาศาลล้านแปด จนทำให้ JKN Dramax ก้าวขึ้นสู่ช่องทีวีดาวเทียมอันดับ 1 ในประเภทวาไรตี้ มีสปอนเซอร์เต็มตลอดเวลา และสร้างฐานคนดูแฟนคลับมาอย่างต่อเนื่องก่อนใคร แล้วยังสร้างสถิติใหม่ตรงที่เรื่อง ‘ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ’ ฉายเคเบิ้ลแซทเทิลไลท์มา 4 ปีแล้ว แต่ล่าสุดเรื่องนี้กำลังจะกลับมาฉายที่ทีวีดิจิทัลช่องหลักๆ ของประเทศ เพราะมันเกิดกระแสนิยมแบบมหาศาล”
ในฐานะผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ที่เป็นผู้ปลุกกระแสซีรี่ส์อินเดียในเมืองไทยจนได้ฉายาว่า “เจ้าแม่ภารตะ” หลังสถานีโทรทัศน์หลายช่องรุมซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปออกอากาศและประสบความสำเร็จในการสร้างเรตติ้งให้สถานีอย่างน่าพอใจ ‘คุณแอน’ วิเคราะห์ว่าซีรี่ส์อินเดียจะยังอยู่ในความนิยมของผู้ชมคนไทยไปอีกนาน
“ซีรี่ส์อินเดียจะอยู่อีกนานเพราะเขาคือ Motherland ของเรา ภาษาสันสกฤตก็เป็นรากเหง้าของภาษาไทย ศาสนา วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม รามเกียรติ์ มหาภารตะ หนุมาน พระราม ล้วนแล้วแต่มาจากฝั่งของอินเดียทั้งหมด พล็อตเรื่องพระศิวะมา เราก็บูชา เรื่องพระพิฆเนศ เราก็มี นี่แหละคือรากเหง้าที่ทำให้ละครอินเดียประสบความสำเร็จในบ้านเรา เพียงแต่ว่าจะได้เรตติ้งเท่าไหร่ก็แล้วแต่เรื่อง”
“แต่ที่แน่ๆ เพื่อเป็นการฉลอง 8 ปี ช่อง JKN Dramax ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เราจะปรับโฉมใหม่หมดและเปลี่ยนเป็นช่อง ภารตะพันล้าน 100% โดยเราจะคัดสรรแต่ซีรี่ส์อินเดียที่เข้มข้น ดราม่าถึงรสถึงอารมณ์ มาให้ผู้ชมได้ชมกันเต็มอิ่มทั้งวัน ตามสโลแกน ‘JKN Dramax สนุกทุกวัน สำหรับทุกคน’ ค่ะ”
14 นาฬิกาเศษ…บริเวณควอเทียร์แกลอรี่ ถูกอาบด้วยสีชมพูดูอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก ตามแนวคิดการจัดงานที่ต้องการส่งมอบความรัก ความสุข และคำขอบคุณให้กับผู้ชมที่ให้การสนับสนุนช่อง JKN Dramax มาตลอด 8 ปี ท่ามกลางแฟนคลับที่มาร่วมงานอย่างแน่นขนัด ‘คุณแอน’ ที่เมื่อสักครู่ยังนั่งคุยกับเราในชุดสูทสีแดงเพลิง กลับกลายเป็นสาวภารตะในชุดสีชมพูสด กำลังยืนต้อนรับดร.ซานเจย์ กุมาร เลขานุการโท ผู้แทนการค้าและพาณิชย์ สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก
และแล้วเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มเมื่อซุปเปอร์สตาร์และเหล่านักแสดงนำจากเรื่อง “ลิขิตรักนี้เพื่อเธอ” ซีรี่ส์อินเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินเดียตลอดกาลและสร้างประวัติศาสตร์ในการฉายต่อเนื่องยาวนานถึง 5 ปี ออกมาปรากฏตัวพร้อมการแสดงสุดเซอร์ไพรส์ นำทีมโดย Anas Rachid ผู้รับบท ‘สุราจ’ รวมทั้ง Avinesh Rekhi ผู้รับบท Umar Shankar ในซีรี่ส์ สุริยันจันทรา ตราบนั้นฉันรักเธอ หรือลิขิตรักนี้เพื่อเธอ ภาค 2 ต่อด้วยโชว์จาก 2 ศิลปินไทยผู้ร้องเพลงประกอบ ได้แก่ โรส ศิรินทิพย์ กับเพลง ‘ไปให้สุดฝัน’ จากซีรี่ส์สุดดรามา “อูดาน ทาสรัก ทาสอาญา” และ เจินเจิน บุญสูงเนิน กับเพลง ‘เงียบ’ จากซีรี่ส์ “สรัสวตีจันทรา สัญญารัก สัญญาลืม” ก่อนจะปิดท้ายด้วย Meet & Greet ดารานักแสดงอินเดียกับแฟนคลับชาวไทยอย่างสนุกสนานเป็นกันเอง
คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ช่อง JKN Dramax ที่ฮอตฮิตอยู่แล้ว จะยิ่งร้อนแรงขนาดไหนเมื่อปรับโฉมใหม่สู่ช่อง ‘ภารตะพันล้าน 100%’ ภายใต้การบริหารของ ‘เจ้าแม่ภารตะ’ The Influencer ตัวจริงผู้จุดกระแสอินเดียฟีเวอร์ในเมืองไทย
