นายพงษ์ธวัทน์ ก้าวสัมพันธ์ กรรมการบริหารส่วนปฏิบัติการ บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจประกันภัยในปี 2561 มีแนวโน้มสดใส หลังจากที่ในช่วงปี 2559-2560 ที่ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยแนวโน้มการเติบโตน่าจะกลับสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยได้กล่าวว่าในปี 2560 มียอดการเติบโตราว 4% จากปี 2559
ส่วนในปี 2561 นี้บริษัทฯ มองภาพบวกจากองค์ประกอบหลายๆ อย่าง คาดการณ์ว่าการเติบโตของธุรกิจประกันภัยจะสูงถึง 10% จากยอดขายรถใหม่ที่แนวโน้มดีมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 และแนวโน้มธุรกิจประกันสุขภาพที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากทางภาครัฐให้สิทธิลดหย่อนภาษีเริ่มต้นในปี 2560
โดยปีนี้บริษัทฯ ประเดิมไตรมาสแรกด้วยการเปิดตัวศูนย์บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจร สาขาเชียงใหม่อย่างเป็นทางการ และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสาขาทั้งหมดของศรีกรุงโบรคเกอร์ โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท โดยมีพื้นที่การทำงานทั้งหมดรวมกว่า 1,000 ตรม. ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน 2 แห่ง และ Service apartment อีก 1 อาคาร โดยอาคารสำนักงาน A เป็น One stop service ด้านประกันภัย โดยมีพนักงานรองรับลูกค้าทั้งหน้าร้าน ลูกค้าจากระบบ Line และ call center อีกกว่า 40 คน
พงษ์ธวัทน์ ก้าวสัมพันธ์ กรรมการบริหารส่วนปฏิบัติการ บริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด
โดยการทำงานระบบจะเชื่อมโยงระบบกับสำนักงานใหญ่ บางบอน เพื่อรองรับทิศทางธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ลูกค้านิยมการซื้อขายผ่านโซเชียลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระในการรับสาย รับแชท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าเทศกาลวันหยุดยาวที่ทุกบริษัทจะติดปัญหาพนักงานลากลับบ้าน แต่สำหรับสาขาเชียงใหม่นั้น ใช้พนักงานในพื้นที่ซึ่งสามารถบริการลูกค้าได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ อาคาร A ยังประกอบด้วย ห้องประชุมขนาด 6 ทีนั่ง และขนาด 50 ที่นั่ง เพื่อรองรับการประชุมสัมมนา เพื่อพัฒนาคุณภาพของนายหน้าที่ส่งงานบริษัทให้มีความรู้ที่ทันสมัยตลอดเวลา ส่วนอาคาร B เป็นอาคารสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสภาพรถยนต์ที่จะต่อทะเบียนรถประจำปีในชั้นล่าง และเป็นพื้นที่ Co-Working Space ขนาด 15 ที่นั่ง สำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือนักธุรกิจที่อยากจะได้สถานที่ทำงานที่มี Inspiration ที่พร้อมด้วย Facility ครบครัน
นอกจากนี้ ยังมีอาคาร Service Apartment ด้านหลังจะประกอบไปด้วย 1 ห้องนอนด้านล่างพร้อมห้องน้ำ ออกแบบพิเศษสำหรับคนพิการ และ 2ห้องนอนด้านบนสำหรับผู้ที่สนใจจะเช่าพัก ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นจากบริการที่มีให้เพิ่มเติม รวมถึงที่จอดรถ 15 ที่ภายในบริเวณสถานตรวจสภาพรถเอกชนในพื้นที่ และยังมีบริการ Free Wifi ทั่วทั้งบริเวณอาคารและห้องรับรองลูกค้าที่สะดวกสบายทำให้การซื้อประกันเป็นไปด้วยความฉับไวสะดวกสบายยิ่งขึ้น
จากแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับการลงทุนในการทำดิจิตอลของบริษัทเริ่มไปในทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้น การทำตลาดผ่านสื่อ mass media หลายอย่าง และรวมถึงการเข้าทำการตลาดแบบโซเชียลมีเดีย ผ่าน Line ผ่าน Facebook การตั้งศูนย์บริการลูกค้ารับสายโทรศัพท์รับ Chat ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง บริษัทฯ จึงวางเป้าหมายในปี 2561 ไว้ที่ 2,800 ล้านบาท เติบโต 23.8% จากปีที่ผ่านมา
โดยทิศทางการขยายสาขาในปีนี้ ยังคงวางแผนการขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง เป็น 34 สาขา และปรับปรุงพื้นที่สาขาเดิมให้รองรับการบริการให้มากขึ้น โดยจะยังคงเป้าหมายหลักที่จะมีสาขาให้ครบทุกจังหวัดในอีก 5 ปีข้างหน้า สำหรับสาขาเชียงใหม่จะเป็นสาขาหลักในการทำเป้าหมาย โดยทางบริษัทคาดหวังสาขาเชียงใหม่ให้เติบโตยอดขาย 100% จากปี 2560 ที่ทำยอดเบี้ยประกันได้ 80 ล้านบาทเป็น 160 ล้านบาทในปี 2561
สำหรับ Flagship แบบสาขาเชียงใหม่นี้ ทางบริษัทศรีกรุงยังจะได้เตรียมแผนการพัฒนาสำหรับที่ดินที่ได้ซื้อเตรียมไว้แล้วในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ขนาด 3 ไร่ จังหวัดร้อยเอ็ด ขนาด 5 ไร่ และที่ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง ขนาด 4 ไร่ โดยที่ดินทั้งหมดอยู่ติดถนนขนาด 6 เลน และยังเตรียมงบประมาณไว้ซื้อที่ดินเพื่อทำ Flagship แบบนี้ที่ชลบุรี และหาดใหญ่ต่อไปอีกด้วย
