“ลือศักดิ์ พันธุ์อุทัย” บริหารโรงแรมแบบ “คิดต่าง- ฉีกกฎทุกมุม” รุกสร้างธุรกิจ-รายได้จากข้างนอกเสริมพอร์ต

2489

ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากกว่า 30 ล้านคนต่อปี ทำให้บรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงผู้ที่อยู่ในธุรกิจโรงแรมอยู่เดิมแล้วต่างให้ความสนใจและเดินหน้าลงทุนในธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และในเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย

ส่งผลให้ภาพการแข่งขันของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยคึกคักและรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาของเชนการบริหารระดับโลกที่ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกในการเลือกแบรนด์ที่จะมาบริหารเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการรายเดิมๆ ที่อยู่ในตลาดนานแล้วก็ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรักษาฐานตลาดของตัวเองและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ลือศักดิ์ พันธุ์อุทัย รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ

“ลือศักดิ์ พันธุ์อุทัย” รองผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ www.362degree.com ถึงแนวทางในการบริหารโรงแรมแห่งนี้ให้เติบโตและมีผลกำไรท่างมกลางการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจโรงแรมในขณะนี้ว่า หัวใจของการบริหารธุรกิจโรงแรมในยุคนี้คือ ต้องคิดต่างและฉีกกฎการบริหารแบบเดิมๆ ในทุกๆ มุมมอง เนื่องจากการแข่งของธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันสูงกว่าในอดีตเมื่อหลายปีก่อนอย่างสิ้นเชิง

“ลือศักดิ์” บอกว่า ทุกวันนี้มีโรงแรมใหม่เกิดขึ้นแทบทุกเดือน บางรายปรับตัวเองจากเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์มาเป็นโรงแรม บางรายก็อยู่ในโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งมีศักยภาพในรองรับนักท่องเที่ยวได้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งรับประทานอาหาร ฯลฯ ซึ่งจากการประเมินคาดว่าปัจจุบันนี้ห้องพักเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมกันมีจำนวนมากกว่า 100,000 ห้องพัก เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับเมื่อสัก 10 ปีก่อนหน้า

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศก็ยังไม่ดีนัก ซึ่งเป็นตัวฉุดให้ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ยังไม่สามารถปรับขึ้นอัตราค่าห้องพักได้มากนัก เนื่องจากการแข่งขันยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้กลยุทธ์ด้านราคามาเป็นตัวดึงลูกค้า

นอกจากนี้ ฐานของนักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากฝั่งยุโรปซึ่งมีกำลังซื้อสูงและพักอยู่นาน แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังใช้จ่ายไม่สูงและพักสั้น ที่สำคัญยังนิยมพักในโรงแรมที่มีระดับราคาไม่สูงมาก ยิ่งเป็นตัวแปรให้ธุรกิจโรงแรมของไทยหันมาเล่นเรื่อง “ราคา” กันชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพจาก : Agoda

สำหรับโรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ นั้น “ลือศักดิ์บอกว่า เป็นโรงแรมที่อยู่ค่อนข้างไกลและไม่ได้อยู่ในไพร์มโลเคชั่น แถมยังไกลเส้นทางรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT  แต่ตนก็ไม่ได้มองว่านี่คือ “จุดด้อย” แต่อย่างใด เพราะในความเสียเปรียบบางมุมมองนั้นเราก็มีข้อได้เปรียบในบางมุมเช่นกัน

“ลือศักดิ์” บอกด้วยว่า โรงแรมแห่งนี้อาจจะอยู่ไกลกลางเมืองกรุงเทพฯ รถไฟฟ้าไม่ผ่าน แต่ข้อได้เปรียบคือ เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งข้อได้เปรียบในจุดนี้ได้กลายมาเป็นจุดแข็งของโรงแรมและมาเป็นจุดขายหลักในการทำการตลาดอยู่ในขณะนี้

ซึ่งก่อนหน้านี้โรงแรมได้รุกทำการตลาดกับลูกเรือของสายการบินต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าที่เป็นกลุ่มลูกเรือของสายการบินอยู่กว่า 10 สายการบิน อาทิ เอทิฮัด, กาต้าร์, เวียดเจ็ท ฯลฯ รวมแล้วกว่า 200 ห้องต่อคืน หรือประมาณ 40% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังให้บริการส่วนงานช่างกับสายการบินต่างๆ ที่มีสำนักงานและเลานจ์ให้บริการที่สนามบิน นำเสนอบริการบริการซักรีดให้กับสายการบินต่างๆ  รวมถึงให้บริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับสายการบินที่มีเลานจ์ไว้บริการลูกค้า

เรียกว่า กลยุทธ์หลักในการสร้างรายได้ให้โรงแรมในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบันคือ การมุ่งสร้างรายได้ใหม่และหารายได้จากข้างนอกโรงแรมเข้ามาเสริม โดยใช้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรที่มีอยู่เป็นตัวสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นทีมบุคลากรฝ่ายช่าง, พนักงานซักรีด, พนักงานฝ่ายครัว

“ลือศักดิ์” อธิบายอีกว่า ในอดีตโรงแรมมีรายได้จากธุรกิจที่ให้บริการภายในโรงแรมเป็นหลัก เช่น รายได้จากห้องพัก รายได้จากอาหารและเครื่องดื่ม รายได้จากการจัดเลี้ยง ฯลฯ ซึ่งรายได้เหล่านี้ในแต่ละปีมีอัตราการเติบโตไม่ได้สูงมากนัก แต่ขณะนี้โรงแรมแห่งนี้ไปหาธุรกิจจากข้างนอกเข้ามาเสริมรายได้เดิมที่เคยทำได้ ทำให้ในแต่ละปีโรงแรมแห่งนี้ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องได้ และมีศักยภาพในการดูแลพนักงาน จ่ายโบนัสให้พนักงานได้

“พนักงานเราในแต่ละแผนกมีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทำงานมา 10-20 ปี ทำให้เรามีความได้เปรียบเวลาไปนำเสนองาน ซึ่งตอนนี้เราได้งานดูแลเรื่องซ่อมบำรุง, บริหารอาหารในเลานจ์ ฯลฯ ให้กับสายการบินบางส่วนแล้ว เช่น สิงคโปร์ แอร์ไลน์, แอร์ฟรานซ์, โอมานแอร์ เป็นต้น”

นี่คือ แนวคิดแบบแตกต่างและฉีกกฎการบริหารโรงแรมแบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง และเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้โรงแรมเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี อย่าง “โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ” มีศักยภาพในการแข่งขันและสร้างการเติบโตที่เพิ่มขึ้นได้ในทุกๆ ปี