“ชาลี โสภณพนิช” ดึง โชร์สเบอรี ปลุกทำเล RCA

2048

ในขณะที่ระบบการศึกษาระดับพื้นฐานของประเทศไทย ทั้งโรงเรียนประถม โรงเรียนมัธยม รวมไปถึงมหาวิทยาลัยของภาครัฐ พัฒนาไปไม่ทัน จนถูกเพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมไปถึงเวียดนามแซงหน้าไป แต่สำหรับการศึกษาระดับพรีเมียม หรือโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกลับเติบโตนำหน้าภูมิภาค

ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงเรียนานาชาติมากกว่า 120 โรงเรียน กระจายอยู่ทั่วประเทศ มีนักเรียนอินเตอร์อยู่ในระบบมากกว่า 3-4 หมื่นคนต่อปี และมีแนวโน้มว่า จำนวนนักเรียนจะขยายตัว รวมถึงโรงเรียนนานาชาติก็มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นทุกปีด้วย

สตีเฟน ฮอลลอยด์ ผู้อำนวยการโรงเรียน โชรส์เบอรี อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย และนักการศึกษา ผู้มีประสบการณ์ 12 ปีในประเทศไทยในฐานะครูใหญ่ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ –   ริเวอร์ไซด์ แคมปัส ยืนยันการเติบโตของโรงเรียนานานชาติว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โชรส์เบอรี่ กรุงเทพฯ – ริเวอร์ไซด์ จำเป็นต้องปฏิเสธเด็กที่สมัครเข้าศึกษาในระดับอนุบาลและประถมศึกษา  และมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์การคัดเลือก มากกว่า 650 คน เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด

โรงเรียนโชร์สเบอรี ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด 1 ใน 9 ของประเทศอังกฤษ สถาปนาขึ้นภายใต้พระบรมราชานุญาต ตั้งแต่ปี ค.ศ.1552 และเข้ามาเปิดโรงเรียนนานาชาติโชร์สเบอรี กรุงเทพ  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ก่อน โดยมีชาลี โสภณพนิช เป็นผู้ก่อตั้ง โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส บนถนนเจริญกรุง รับนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา สำหรับนักเรียนอายุ 3-18 ปี จำนวน 1,700 คน

ความต้องการที่เรียนที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทำให้ ชาลี  โสภณพนิช ทายาทตระกูลนักการเงิน แต่คลุกคลีอยู่กับวงการอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด เลือกใช้พื้นที่อดีตแหล่งบันเทิงยามค่ำของคนกรุง อาร์ซีเอ พระราม 9 ที่ซบเซามานาน  เป็นที่ตั้ง แคมปัสแห่งใหม่ของโชร์เบอรี  ‘โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส’

“เรามุ่งที่จะสร้างโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อรองรับเด็กวัยแรกเรียนโดยเฉพาะ โดยจะช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาระดับอนุบาลและประถมศึกษาในประเทศไทยให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ด้วยสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติอันร่มรื่น ซึ่งได้รับการคิดและออกแบบรังสรรค์อย่างละเอียดรอบคอบตั้งแต่ขั้นตอนแรกเริ่มเพื่อให้ทุกองค์ประกอบผสานเข้ากันอย่างลงตัวและมีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมจัดสรรให้มีครูผู้ชำนาญการสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษาที่ดีที่สุด ตอกย้ำและต่อยอดความสำเร็จอันยาวนานตลอดระยะเวลา 15 ปีในประเทศไทยของ    โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ”  ชาลีกล่าว

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา บนพื้นที่ 15 ไร่ ใจกลางกรุงเทพ ระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 9 ด้วยเงินลงทุน 2,600 ล้านบาท เพื่อรองรับเด็กนักเรียน อายุ 3-11 ปี จำนวน 640 คน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนจำนวนมากที่อยู่ระหว่างรอคิวเพื่อเข้าศึกษาระดับอนุบาลและประถมศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส โดยมีกำหนดเปิดการเรียนการสอนในเดือนสิงหาคม 2561 โดยขณะนี้มีผู้จองสิทธิการศึกษาไว้แล้ว 40 ที่  คิดค่าเรียนปีละ 6.4 แสนบาท(3 เทอม)

ชาลี กล่าวว่า การมีสถาบันการศึกษาชั้นเลิศในประเทศไทย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อระดับความน่าสนใจของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายของการลุงทนจากต่างประเทศ เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงชาวต่างชาติจะคำนึงถึงเรื่องการศึกษาของบุตรหลานเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในการตัดสินใจเลือกประเทศที่จะเข้าไปอยู่อาศัยและทำธุรกิจ ทั้งนี้ คุณภาพการศึกษาระดับอนุบาลและประถมศึกษาถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กมีผลการเรียนดีเยี่ยมในระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาออกมาเป็นผู้นำที่มีความรอบรู้และความสามารถรอบด้านครบทุกมิติของชีวิต ดังนั้นการสร้างสรรค์โรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียจะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญต่อความสามารถของประเทศไทยในการแข่งขันบนเวทีระดับโลก

แต่ในฐานะนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์  ชาลี มองการต่อยอดโรงเรียนนานาชาติสู่การบริหารจัดการพื้นที่แบบ Mix Use  เพราะการเปิดโรงเรียน ก็เป็นการสร้างพื้นที่ชุมชนขึ้นมา ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง รวมไปถึงคุณครู อาจารย์ผู้สอนที่กว่า 70% เป็นชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศอังกฤษ  เหมือนดังเช่น โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ริเวอร์ไซด์ แคมปัส ที่มีการเปิดโรงแรมชาเทรียม 360 ห้อง และอพาร์ทเมนท์ 260 ห้อง

โดยที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี – ซิตี้ แคมปัส ยังมีพื้นที่โดยรอบอีก 30 ไร่ที่พร้อมจะพัฒนาเป็นโครงการ Mix Use  นอกจากรองรับชุมชนของโรงเรียนแล้ว ในอนาคตบริเวณหน้าโครงการจะเป็นสถานีจอดรถ ของรถไฟฟ้าสายสีส้ม บนถนนพระราม 9  ซึ่งนอกจาก อพาร์ทเมนท์ 300 ห้อง บนพื้นที่ 5 ไร่ ที่รองรับอาจารย์ รวมถึงนักเรียน ผู้ปกครองแล้ว ยังจะมีโรงแรม รวมถึงโครงการอื่นๆ เพิ่มเข้ามาด้วย

โดยชาลีกล่าวว่า จุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติโชร์สเบอรี คือ ครูผู้สอนที่มาจากต่างประเทศ จะอยู่กับโรงเรียนเป็นเวลานาน ไม่ต้องย้ายไปมาเหมือนโรงเรียนนานาชาติอื่น สิ่งนี้เองทำให้ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี มีมาตฐานที่พักอาศัย ที่ใช้ชีวิตที่ดี   โดยการลงทุนทั้งหมดนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการคืนทุนราว 5-10 ปี

ด้านอแมนด้า เดนนิสสัน ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส กล่าวว่า พันธกิจสำคัญคือมอบการศึกษาแบบองค์รวมอันเป็นเอกลักษณ์ของโชรส์เบอรี ซึ่งจะช่วยพัฒนาเด็กนักเรียนทั้งในด้านการศึกษาเชิงวิชาการและด้านอารมณ์ พร้อมทั้งปรับการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทต่างๆ ในสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้แบบเกื้อกูล ซึ่งจะช่วยให้เด็กนักเรียนมีความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในระดับมหาวิทยาลัย และใช้ชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

“ผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งในช่วงปีแรกๆ ของการเรียนรู้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นการสอนให้เด็กๆ ใช้ภาษาแม่ของตัวเองได้อย่างเชี่ยวชาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยแม้ว่าที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ – ซิตี้ แคมปัส จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน แต่ก็ให้ความสำคัญกับการผนวกหลักสูตรภาษาไทยและภาษาจีนกลางที่ดีที่สุดเข้าไปในกระบวนการเรียนการสอนด้วย ดังนั้น นักเรียนทุกคนจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ และสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วแตกฉาน รวมทั้งมีพื้นฐานการใช้ภาษาจีนกลางที่ดีเยี่ยมอีกด้วย” ครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ซิตี้ แคมปัส กล่าว