“ซัมซุง เดอะ เฟรม” เมื่อ Functional ประสาน Emotional อย่างลงตัว

1378

ในโลกของการตลาด การผลิตสินค้า 1 ชิ้น สามารถวางแนวทางการนำเสนออจากคุณค่าของสินค้าที่เป็นเลิศในการใช้งาน  มีเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบาย หรือตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าเป้าหมาย  เรียกว่า Functional หรืออีกทาง คือการวางภาพความเป็นเลิศในความรู้สึก ความหรูหรา ความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ  หรือ Emotional

รถกระบะที่ต้องทำหน้าที่บรรทุกสินค้าได้เป็นจำนวนมาก คือ Functional ที่ได้มา เปรียบเทียบกับรถสปอร์ต ที่แค่โดยสารยังไปได้แค่ 2 คน แต่ได้ความภูมิฐาน เป็น Emotional

แต่หากสินค้า 1 ชิ้น สามารถทำหน้าที่สร้างประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด และยังความหรูหราที่สร้างความรู้สึกภูมิใจด้วย ก็ถือว่า นี่คือสุดยอดสินค้า

ในตลาดทีวีปัจจุบัน การแข่งขันของแต่ละแบรนด์มองไปที่การพัฒนาความคมชัดของภาพให้สูงขึ้น รวมถึง การสร้างสมาร์ททีวีสามารถเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ต เป็น Functional สร้างประสิทธิภาพของทีวีให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้

วันนี้ซัมซุง ผู้นำในตลาดทีวีเมืองไทยมายาวนานถึง 11 ปี โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำ ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่  “ซัมซุง เดอะ เฟรม (Samsung The Frame)”  ที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นครั้งแรกของการรวม Functional เข้ากับ Emotional ได้อย่างลงตัว

วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไป มีความซับซ้อนและพิถีพิถันในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น และมองว่าเทคโนโลยีมีไว้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่คนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว ถ่ายภาพ ศิลปะ กีฬา สุขภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดจะไม่ใช่แค่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ตามฟังก์ชั่นเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์เชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้น

“โดยผลการสำรวจของซัมซุงพบว่า ในปัจจุบันผู้บริโภคดูทีวีเฉลี่ยเพียง 4 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ 20 ชั่วโมงที่เหลือทีวีจะถูกปิดเป็นจอสีดำตั้งอยู่ภายในบ้าน ซัมซุงจึงดึงเอานวัตกรรมมาผสานเข้ากับดีไซน์ สร้างสรรค์ออกมาเป็นไลฟ์สไตล์ทีวีรุ่นใหม่ ‘ซัมซุง เดอะ เฟรม’ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของทีวีแห่งอนาคตที่จะฉีกทุกรูปแบบทีวีที่เคยมีมา”

ซัมซุง เดอะ เฟรม ออกแบบโดย อีฟ เบฮาร์ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวสวิส ภายใต้แนวคิด    “Art when it’s off, TV when it’s on” ดีไซน์ทีวีเหมือนกรอบภาพ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกภาพเพื่อแสดงบนหน้าจอได้ตามต้องการเมื่อไม่ได้ดูทีวี ทั้งงานศิลป์จากศิลปินระดับโลก และภาพส่วนตัว เพื่อสะท้อนตัวตนของผู้ใช้มากที่สุด ทำให้ทีวีไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเป็นแค่ทีวี แต่จะเป็นศิลปะล้ำค่าในบ้านที่จะกลมกลืนไปกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ และเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นแกลเลอรี่

โดย สุวิณ โกษีอำนวย ผู้อำนวยการธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด  กล่าวว่า ซัมซุง เดอะ เฟรม มาพร้อมกับ Art Mode ฟังก์ชั่นพิเศษนวัตกรรมหนึ่งเดียวจากซัมซุงที่จะช่วยเปลี่ยนทีวีให้กลายเป็นงานศิลปะเมื่อทีวีถูกปิดไว้ โดยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแสดงภาพงานศิลปะกว่า 100 แบบ จากศิลปินระดับโลกใน 10 สาขา รวมทั้งสิ้น 37 คน ผ่านคลังรูปภาพ Samsung Collection หรือแสดงภาพครอบครัวและรูปภาพส่วนตัวจาก My Collection และยังสามารถเลือกสรรงานศิลป์เพิ่มเติมได้จาก Art Store   มีความละเอียดหน้าจอขณะเปิดรับชมที่ระดับยูเอชดี (UHD) พร้อมเซนเซอร์วัดความสว่างของแสงโดยรอบ (Brightness Sensor) ที่ช่วยปรับระดับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติ และเซนเซอร์วัดการเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ที่จะปรับเป็นโหมดประหยัดพลังงานเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้องและเมื่อปิดทีวี

นอกจากนี้ซัมซุง เดอะ เฟรม  ยังมาพร้อมกับ Customizable Frame กรอบทีวีที่ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยมีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีวอลนัท สีไม้เบจ และสีขาว ทั้งยังมีแอคเซสเซอรี่ครบชุดที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ทั้ง Invisible Connection สายไฟเบอร์ออปติคบางใส อุปกรณ์ติดทีวีกับผนังแบบไร้ช่องว่าง No Gap Wall-Mount และขาตั้งแบบต่างๆ ให้เลือก รวมถึง ‘One Remote Control’ ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับซัมซุง เดอะ เฟรมได้โดยใช้รีโมทเดียว”

วรรณา กล่าวต่อว่า เนื่องจากซัมซุง เดอะ เฟรม ถือเป็นมิติใหม่ของทีวี ซัมซุงจึงเน้นไปที่การสร้างการรับรู้และประสบการณ์ตรงในกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงบน ซึ่งเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ ที่มีการลงทุนกับการตกแต่งบ้าน มีไลฟ์สไตล์เป็นของตนเอง และมีกำลังซื้อหากเจอสิ่งที่ต้องการ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด 55 นิ้ว ราคา 74,990 บาท และ 65 นิ้ว ราคา 99,990 บาท

โดยซัมซุงได้เตรียมกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจัดพื้นที่พิเศษแสดงผลิตภัณฑ์ที่ร้านค้า 40 แห่ง พร้อมกิจกรรมพิเศษกระตุ้นให้คนมีส่วนร่วม และสร้างประสบการณ์ตรงกับผู้บริโภค    ทั้งยังเตรียมส่งดิจิทัลแคมเปญผ่านทางอินฟลูเอ็นเซอร์เหล่าคนรักศิลปะและเทคโนโลยี เพื่อให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และบอกต่อ รวมถึงการจัด The Frame Gallery นอกจากนี้ซัมซุงยังจับมือกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ อาทิ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ อาทิ แสนสิริ, เอพี ในการนำผลิตภัณฑ์ไปติดตั้งในโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

วรรณายังได้กล่าวถึงสภาพตลาดทีวีในประเทศไทยช่วง 8 เดือนแรกว่า สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ตลาดทีวีปีนี้ติดลบจาก 8 เดือนของปีที่แล้ว  ราว 2-3%  แต่เชื่อว่าเมื่อถึงสิ้นปีตลาดจะกลับมาเติบโตขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีของรัฐบาล ราว 1-2%   โดยมูลค่าตลาดจะอยู่ราว 2.8-3 หมื่นล้านบาท

ในส่วนของซัมซุง วรรณามั่นใจว่า การเปิดตัว  QLED TV ในช่วงก่อนหน้า และ The Fame ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มพรีเมียม กลุ่มผู้บริโภคระดับกลางบน ที่เชื่อว่าไม่กระทบกับสภาพเศรษฐกิจ  จะช่วยให้ยอดขายโดยรวมทีวีของซัมซุงในปีนี้น่าจะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 2 หลัก โดย The Fame ได้วางเป้ายอดขายถึงสิ้นปีไว้  100 ล้านบาท