เวลาเปลี่ยน คู่แข่งเปลี่ยน ทรูวิชั่นส์ก็ถึงเวลาเปลี่ยน

2467

ตลาดเปย์ทีวี หรือทีวีบอกรับสมาชิกในประเทศไทย แม้วันนี้จะมีผู้ให้บริการหลักเพียงรายเดียว คือ ทรูวิชั่นส์  แต่ตลาดนี้อาจเทียบไม่ได้กับสภาพการผูกขาดเหมือนกันตลาดอื่นๆ ที่เจ้าตลาดอิ่มหนำกับส่วนแบ่งตลาดที่ได้มา

เพราะส่วนแบ่งตลาดที่เกือบจะเก็บได้ทั้ง 100% เหลือแบ่งให้รายย่อย ผู้ให้บริการท้องถิ่นเล็กๆ  แต่ส่วนแบ่งตลาดทั้งหมดนั้นเมื่อเทียบเป็นครัวเรือนแล้ว  ก็อยู่ในระดับเกิน 4 ล้านครัวเรือนมาเล็กน้อย ขณะที่ครัวเรือนในเมืองไทยมีมากกว่า 20 ล้านครัวเรือน หรือเรียกว่า ตลาดนี้เข้าถึงคนไทยได้เพียง 20% เท่านั้น

เส้นทางการทำธุรกิจเปย์ทีวี ของทรูวิชั่นส์ ล้วนอยู่บนความไม่แน่นอนของตลาด เริ่มตั้งแต่คู่แข่ง ที่มีตั้งแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ แรกเริ่มจากกลุ่มชินวัตร แข่งกับกลุ่มธนายง   การขายกิจการระหว่างกลุ่มชินวัตร กับกลุ่มเทเลคอมเอเชีย จนกลายมาเป็นทรูวิชั่นส์ ในปัจจุบัน และการเกิดคู่แข่งที่คาดไม่ถึงอย่าง ซีทีเอช  ท้ายที่สุด ความโหดของตลาดก็ทำให้เหลือทรูวิชั่นส์อยู่ในตลาดเพียงรายเดียว

การเกิดขึ้นของทีวีดาวเทียม และทีวีดิจิทัล ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างอุปสรรคในการขยายตลาดเปย์ทีวี ผู้ชมทางบ้านที่เคยมีทีวี 5-6 ช่อง กลับมีช่องทีวีให้เลือกดูเป็น 30 – กว่าร้อยช่อง

แต่สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ และหัวหน้าสายงานการพาณิชย์ทรูวิชั่นส์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น มองว่า ทั้งหมดไม่ใช่ปัญหาหลักในการขยายตลาดผู้ชมของทรูวิชั่นส์

เพราะคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เป็นคอนเทนต์ที่มีมูลค่า เป็นที่ต้องการ  มีคุณภาพของภาพและเสียงที่เหนือกว่า ไม่มีคู่แข่งในธุรกิจ หรือทีวีดาวเทียม ทีวีดิจิทัลได้จะเทียงเคียงได้  มีเพียงปัญหาเดิมๆ ของธุรกิจคอนเทนต์ คือการละเมิดลิขสิทธิ์ ที่ไม่มีวันแก้ได้

  สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์

รองหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ และหัวหน้าสายงานการพาณิชย์ทรูวิชั่นส์

บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

 

สุภกิจ กล่าวว่า ในประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจ ล้วนมีกฎหมายลิขสิทธิ์ที่แข็งแกร่ง การละเมิดลิขสิทธิ์มีโทษรุนแรง ทำให้ตลาดเปยทีวีของประเทศนั้นๆ เติบโต แต่ในประเทศไทย ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาดูแลกันต่อไป

ขณะที่อีกส่วนสำคัญคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเจเนอเรชั่น จอทีวี ไม่ได้เป็นจอหลักของคนในท้าย Gen Y มาจนถึง Gen Z และ Gen C  ทุกคนเลือกที่จะดูเฉพาะคอนเทนต์ที่ตัวเองต้องการ ในเวลาที่ตนสะดวก คำตอบคือคอนเทนต์ออนไลน์ และกล่อง OTT (Over The Top) ก็เข้ามาเป็นดาวเด่นของคนกลุ่มนี้  ส่งผลให้ทีวีดิจิทัลหลายช่องมีเรตติ้งแทบจะติดดิน  และรูปแบบทีวีบอกรับสมาชิกของทรูวิชั่นส์ ก็อาจโดนกระทบเช่นกัน หากไม่มีการปรับตัว

ภาพของทรูวิชั่นส์ในวันนี้จึงเริ่มเปลี่ยนไป

                 เพราะหากเข้าไปตามหมู่บ้านรุ่นเก่าๆ  สิ่งที่พบเห็นคือจานดาวเทียม KU-Band สีแดง ที่ติดบนหลังคาบ้านเกือบตลอดแนว แต่หากเข้าไปหมู่บ้านรุ่นใหม่ๆ จะไม่พบเห็นจานแดงนี้อีกแล้ว  วันนี้สมาชิกทรูวิชั่นส์แบ่งครึ่งเป็นการดูผ่านจานดาวเทียมครึ่ง ขณะที่อีกครึ่งดูผ่านบรอดแบนด์ไฟเบอร์ออฟติก  และมีแนวโน้มการจะดึงสมาชิกทรูวิชั่นส์มาใช้การรับชมผ่านบรอดแบนด์มากขึ้น เพราะหมายถึงการเกาะติดเทรนด์การรับชมรายการผ่านกล่อง OTT ที่จะมีมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ต้นปีที่ผ่านมา ทรูวิชั่นส์ได้เปิดตัวกล่อง OTT รับชมรายการผ่านอินเทอร์เน็ต ในชื่อ กล่องทรูทีวี เป็นการประกาศตัวชนคู่แข่งจากตลาดมือถือ เอไอเอส ที่ขยายเข้าสู่ตลาดบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โดยมีกล่อง AIS Play Box เป็นตัวดึงดูดสำคัญ  สนามตลาดเปย์ทีวี จึงดูเหมือนจะเปลี่ยนมาอยู่ตรงนี้

โดยกล่องทรูทีวี ถูกนำออกมาเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยศึกษาและเริ่มต้นทำงาน ที่มีพฤติกรรมการรับชมรายการตามความต้องการของตน ไม่นิยมการจัดแพ็คเหมือนรายการทีวีทั่วไป โดยเน้นการสร้างรายได้จากการเปิดให้บริการ On Demand  หรือการซื้อ Topping ทั้งการดูหนัง ซีรีส์ จนถึงการดูฟุตบอล  และจุดที่เหนือกว่า คือ หากมีการชมผ่านบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของทรู จะเป็นการส่งสัญญาณคอนเทนต์ผ่านสายไฟเบอร์โดยตรง ให้ความคมชัด และไหลลื่นเหนือกว่า การชมโดยเชื่อมต่อสาย LAN โดยทั่วไป

สุภกิจ จึงวางกลุ่มเป้าหมายสมาชิกของทรูวิชั่นส์ แบ่งเป็นสมาชิกกลุ่มแพ็กเกจหลักของทรูวิชั่นส์ จะเน้นไปที่กลุ่มครอบครัวที่จะได้รับชมรายการที่หลากหลายเหมาะกับทุกคนในครอบครัว ขณะที่กลุ่มกล่องทรูทีวี ใช้เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เน้นการชมรายการเฉพาะความต้องการของตน  โดยคาดว่าทั้งปีนี้ จะมีฐานสมาชิกทั้งหมด ไม่ต่ำกว่า 4.3 ล้านราย

โดยโปรโมชั่นใหญ่ในการขยายฐานสมาชิกในปีนี้ ทรูวิชั่นส์ ได้ใช้ช่วงไตรมาส 3 ที่ถือเป็นช่วงฤดูของการจำหน่ายทีวี เนื่องจากเป็นช่วงคอนเทนต์กีฬารายการใหญ่ๆ เริ่มต้นแข่งขันอีกครั้ง โดยเฉพาะฟุตบอลลีกรายการสำคัญของยุโรป ทั้งพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลาลีกา สเปน หรือกัลโช่ ซีรส์ เอ อิตาลี  เปิดตัวแคมเปญ  “ใบเสร็จทุกใบมีค่า 5,000 บาท ทั้งใบเสร็จมือถือ ทีวี แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์” รับส่วนลดสมัครทรูวิชั่นส์ สูงสุด 5,000 บาท โดยใบเสร็จที่นำมาเป็นส่วนลด ไม่จำกัดร้านค้า และราคา ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30  กันยายน 2560 สมัครสมาชิกวันนี้ ติดตั้งฟรีทุกจุด

สุภกิจกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้ผู้ชมไม่ได้ชมรายการผ่านทีวีเพียงอย่างเดียว แต่อุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และพีซี ก็ล้วนแต่เป็นจอในการรับชมคอนเทนต์ของผู้คนในปัจจุบัน โดยปีที่ผ่านมาจำนวนยอดขายโทรทัศน์มีราว 3 ล้านเครื่อง ขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนมีมากถึง 15 ล้านเครื่อง ขณะที่แท็บเล็ต โน้ตบุ๊กและพีซี มียอดขายรวมกันราว 1 ล้านเครื่อง ล้วนเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สามารถรับชมรายการจากทรูวิชั่นส์ได้ทั้งสิ้น

เพียงนำใบเสร็จจากการซื้ออุปกรณ์ที่มีจอทุกชนิดทั้ง มือถือ ทีวี แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ ในระหว่างปี 2559-2560 โดยเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูป หรืออย่างย่อที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ไม่จำกัดร้านค้า และราคา มาสมัครทรูวิชั่นส์จะได้รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน สูงสุดถึง 5,000 บาทได้ทันที พร้อมติดตั้งฟรีทุกจุด สำหรับแพลทินัมแพ็กเกจ โกลด์แพ็กเกจ และสมาร์ทแฟมิลี่แพ็กเกจ โดยสามารถสมัครสมาชิกใหม่ พร้อมรับสิทธิ์โปรโมชั่นใหม่จากทรูวิชั่นส์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2560 ได้ที่ทรูช้อป และตัวแทนทรูวิชั่นส์ทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรฯ 1242, 0-2761-7777 หรือ www.truevisionsgroup.com

สุภกิจคาดว่า โปรโมชั่นนี้ จะสามารถผลักดันเป้าหมายสมาชิกทรูวิชั่นส์ให้เติบโตตามเป้า 4.3 ล้านครัวเรือนได้ และในส่วนของคอนเทนต์ที่เป็น Topping อย่าง True Super Soccer ที่เคยเพิ่มสมาชิกได้ฤดูกาลละ 2.5-3 แสนราย ในปีนี้ก็จะสามารถรักษาฐานสมาชิกเหล่านี้ต่อไปได้

ซึ่งหากมองจากเทรนด์การใช้โทรศัพท์มือถือ ที่เกิดจากการระบบ Post Paid จัดแพ็คใช้ก่อนจ่ายทีหลัง ก่อนระบบ Pre Paid เติมเงินก่อนใช้ เติมตามความต้องการใช้งานของตน จะมีทำให้ตลาดโทรศัพท์มือถือเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล ครองส่วนแบ่งตลาดร่วม 70-80%  นั้น อนาคตเทรนด์การดูเปย์ทีวี ก็น่าจะเดินมาตามแนวทางนี้ รูปแบบการเลือกชมรายการตามความต้องการ หรือ A la Carte เลือกจ่ายเฉพาะรายการที่ตนต้องการชม จะเป็นตัวกระตุ้นการเติบโตของตลาดเปย์ทีวีครั้งสำคัญ

ทรูวิชั่นส์ที่ยืดหยัดอยู่กับตลาดเปย์ทีวีมายาวนาน ก็พร้อมจะเปลี่ยนเพื่อจะเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดบ้าง